จะสร้างบ้านสักหลัง ถือเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เล่นเลยนะคะ เก็บออมเงินมาตั้งนาน ใครๆก็ย่อมคาดหวังที่จะได้บ้านแบบที่ฝันกันทั้งนั้น แต่สิ่งสำคัญก็อยู่ที่ตอนสร้างนี่แหละค่ะ เพราะหากสร้างไม่ดี เพื่อนๆคงจะต้องปวดหัวกับปัญหาสารพัดตั้งแต่เริ่มสร้าง ทั้งค่าใช้จ่ายที่บานปลาย ระยะเวลาที่นานเกินเหตุ ไปจนถึงผลลัพธ์ที่อาจจะไม่ถูกใจ หรือไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ต้องมาตามแก้ตามซ่อมกันไม่รู้จบ วันนี้เราจึงมีเทคนิคดีๆในการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านมาฝาก เพื่อช่วยให้เพื่อนๆไม่ต้องตัดสินใจพลาดกัน จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย
แนะวิธี เลือกบริษัทรับสร้างบ้านอย่างไร ให้ไม่พลาด !
1. บริษัทมีความน่าเชื่อถือ
สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาในการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านก็คือ บริษัทนั้นต้องมีสถานที่ตั้งชัดเจน ดูมีความน่าเชื่อถือ มีการจดทะเบียนและประกอบกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ติดต่อได้ง่าย ยิ่งมีสาขามากก็ยิ่งดี หากมีปัญหาใดๆเกิดขึ้นจะได้สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ หรือเข้าไปยังสำนักงานโดยตรง
2. ดูจากผลงานที่ผานมา
บริษัทรับสร้างบ้านที่ดีควรมากด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ โดยควรดูไปถึงเรื่องมาตรฐานและคุณภาพของผลงานด้วย ซึ่งนอกจากจะต้องมีแบบบ้านให้เลือกหลากหลาย และสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของลูกค้าแล้ว ทางที่ดีควรเลือกบริษัทที่สามารถพาไปดูผลงานจริงได้ด้วย ไม่ใช่นำเสนอแต่เพียงรูปภาพอย่างเดียว
3. มีสถาปนิกและวิศวกรประจำ
ก่อนจะตัดสินใจเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน เพื่อนๆควรลองพูดคุยหรือปรึกษากับเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ที่บริษัทนั้นๆก่อน ไม่ว่าจะเป็นสถาปนิก วิศวกร หรือทีมงานต่างๆ เพราะเขาเหล่านี้จะเป็นผู้เนรมิตบ้านในฝันให้เพื่อนๆนั่นเอง จึงควรเป็นบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ เป็นมืออาชีพ สามารถให้คำแนะนำ หรือช่วยแก้ปัญหาต่างๆได้ เข้าใจความต้องการของเราได้เป็นอย่างดี และวางแผนการทำงานได้อย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้งานล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น
4. ตรวจสอบใบเสนอราคาและสัญญา
เมื่อเพื่อนๆตัดสินใจเลือกบริษัทรับสร้างบ้านได้แล้ว สิ่งที่เพื่อนๆจะได้ก็คือใบเสนอราคาและสัญญาค่ะ ซึ่งเพื่อนๆต้องอ่านให้ละเอียด และทำความเข้าใจอย่างถูกต้อง สงสัยตรงไหนให้รีบสอบถามได้เลย โดยในสัญญาจะต้องมาในรูปแบบที่เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น และต้องระบุรายละเอียดให้ครบถ้วน เช่น ขอบเขตของงานที่ต้องรับผิดชอบ กำหนดระยะเวลา งบประมาณราคา การแบ่งจ่ายแต่ละงวด วัสดุ เงื่อนไขต่างๆ เป็นต้น
5. ราคาและวัสดุ
แน่นอนว่าการสร้างบ้านสักหลังมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่เมื่อจ่ายไปแล้ว ก็ควรได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมเช่นเดียวกัน ดังนั้นเพื่อนๆต้องพิจารณาถึงวัสดุที่ใช้ ว่ามีความเหมาะสม คุ้มค่า ได้มาตรฐาน และถูกต้องตามที่ตกลงไว้หรือไม่ โดยเพื่อนๆอาจนำราคาของแต่ละบริษัท รวมถึงตัวอย่างวัสดุมาเปรียบเทียบกันเพื่อประกอบการตัดสินใจ เพราะหากราคาถูกแต่ใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือจ่ายแพงแต่ได้วัสดุไม่ตรงกับที่ระบุไว้ อาจทำให้เกิดปัญหาในภายหลัง และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือรื้อถอนเพิ่มได้
6. บริการหลังการขาย
ข้อสุดท้ายนี้ก็มีความสำคัญมากไม่แพ้กัน เพราะการสร้างบ้านใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่ไม่ใช่ว่าจ่ายเงินเสร็จแล้วเราก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่จัดการอย่างเดียว เพื่อนๆต้องหมั่นไปตรวจงานด้วยตนเองด้วย ซึ่งบริษัทรับสร้างบ้านที่ดี จะต้องมีบริการหลังการขายที่คอยรายงานความคืบหน้า ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และสามารถตรวจสอบการทำงานได้ตลอดเวลา รวมถึงการรับประกันหลังการขาย และการแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ เป็นต้น
บทสรุปส่งท้าย
อย่างที่เราได้บอกไปแล้วนะคะว่าการสร้างบ้านหนึ่งหลัง ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย ดังนั้นเมื่อต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงแล้ว ก็ควรได้บ้านในแบบที่ตนเองต้องการ และสามารถใช้งานไปได้ยาวๆ โดยไม่ต้องมีปัญหาจุกจิกกวนใจ เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกบริษัทรับสร้างบ้านด้วยความรอบคอบ เลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ โดยอาจสอบถามกับผู้ที่เคยใช้บริการบริษัทนั้นๆมาก่อน หรือตรวจสอบจากผลงานที่ผ่านมา ดูรายละเอียดสัญญาให้ชัดเจน ทั้งราคา วัสดุ ระยะเวลา รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ ไปจนถึงบริการทั้งก่อนและหลังการขาย แล้วนำมาพิจารณาเปรียบเทียบกัน ในขณะเดียวกันก็อย่าวางใจและทิ้งงานให้ผู้รับเหมาอย่างเดียวนะคะ เพื่อนๆต้องหมั่นตรวจสอบงานด้วยตนเอง หรือให้ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจงานอีกครั้ง เพื่อจะสามารถแก้ไขได้ทันก่อนส่งมอบงานนั่นเองค่า
แนะวิธี เลือกบริษัทรับสร้างบ้านอย่างไร ให้ไม่พลาด อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://luxuryhomesdesigns.com/