แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 54
1
ศูนย์ข้อมูลโควิด-19: ข้อควรทำ เมื่อกลับจากประเทศเสี่ยงไวรัส “Covid-19”

1.    ควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา  ระหว่างเดินทางจากสนามบินกลับถึงบ้าน

2.    กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน เพราะการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะมีระยะฟักตัว (เราได้รับเชื้อมาแล้วแต่ยังไม่แสดงอาการ) ไม่ควรออกไปใช้ชีวิตข้างนอกเพราะอาจมีเชื้อไปแพร่ระบาดสู่ผู้อื่นได้

3.    ระหว่างที่พักอยู่ที่บ้าน งดการสังสรรค์กับเครือญาติ หรือกลุ่มเพื่อนต่าง

4.    แยกห้องนอน ห้องน้ำส่วนตัว อยู่ห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร

5.    ไม่ใช้ช้อน ส้อม แก้วน้ำ ร่วมกับคนอื่น

6.    ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ หรือเจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์เข้มข้นไม่ต่ำกว่า 70% ครั้งละไม่ต่ำกว่า 20 วินาที

7.    สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่อยู่ร่วมกับคนในบ้าน

8.    แยกของใช้ส่วนตัวทุกอย่าง เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้า ฯลฯ

9.    อยู่ห่างจากคนที่มีโรคประจำตัว เพราะคนกลุ่มนี้อาจเสี่ยงติดไวรัสได้ง่าย

10.    วัดไข้ทุกวัน หากเกิน 37.5 องศาเซลเซียส มีอาการเจ็บคอ ไอ น้ำมูกไหล และหายใจลำบาก ควรพบแพทย์

11.    หากมีอาการแล้วต้องไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ควรขับรถยนต์ส่วนตัว หรือเรียกรถพยาบาลมารับ ไม่ควรเดินทางด้วยรถหรือพาหนะสาธารณะ

12.    ระหว่างแพทย์สอบถามประวัติต่าง ๆ ควรตอบตามความเป็นจริง เพื่อการวินิจฉัยอย่างแม่นยำ และถูกต้องที่สุด

หากท่านเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงและมีอาการ ไข้สูงมากกว่า 37.5 องศา, ไอ เจ็บคอ, น้ำมูกไหล, หายใจเหนื่อยหอบ หายใจลำบาก ควรรีบมาพบแพทย์ด่วน!!!!

2
จัดฟันบางนา: ประเภทของการ จัดฟันแบบใส invisalign

การจัดฟันแบบใส invisalign เป็นการนำนวัตกรรมของอเมริกาเข้ามาช่วยในการรักษา ด้วยการออกแบบจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน จนไปถึงขั้นตอนการรักษา ถือเป็นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทางคลีนิคเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความรู้และประสบการณ์มาอย่างยาวนาน จึงสามารถวางแผนการรักษาของผู้เข้ารับการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดฟันแบบใส invisalign มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับสภาพช่องปากของแต่ละบุคคลและผลการวินิจฉัยของทันตแพทย์ ว่า สภาพฟันของผู้เข้ารับการรักษาเหมาะสมที่จะทำการ จัดฟันแบบใส invisalign ในรูปแบบใด โดยมี 3 รูปแบบคือ การจัดฟันแบบใส invisalign full โดยการจัดฟันแบบนี้ จะมีเครื่องมือ 15 ชิ้นขึ้นไป ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฟันค่อนข้างมาก การจัดฟันแบบนี้จะสามารถแก้ปัญหาฟันได้ทุกกรณี ใช้เวลาการจัด 6 เดือนขึ้นไป

รูปแบบต่อมาคือ การจัดฟันแบบใส invisalign lite ใช้เครื่องมือการจัดฟันตั้งแต่ 7-14 ชิ้น เหมาะกับผู้ที่เคยเข้ารับการจัดฟันมาก่อน มีปัญหาฟันเพียงเล็กน้อย ใช้เวลาการจัดฟันประมาณ 4 เดือน และรูปแบบสุดท้าย การจัดฟันแบบใส invisalign i7 ซึ่งการจัดฟันแบบนี้จะมีเครื่องมือการจัดฟันเพียง 7 ชิ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเพียงเล็กน้อย ทันตแพทย์ของเราจะทำการช่วยเรียงฟันให้เข้ารูปเป็นปกติ ทั้งนี้ทางเรามีเจ้าหน้าที่คอยให้กับปรึกษาและแนะนำ หากต้องการจัดฟันแบบใส invisalign


วิธีการจัดฟันแบบใส invisalign ในเด็ก !

เป็นที่ทราบกันดีว่า การจัดฟันถือเป็นที่นิยมมากในวัยรุ่น และการจัดฟันแบบใส invisalign ในเด็กก็ถือว่าเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน ด้วย invisalign เรามีฟังก์ชั่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับการเจริญเติบโตของฟันในเด้กและวัยรุ่น เรียกว่า invisalign teen ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับพฤติกรรมของเด็ก และการเจริญเติบโตของฟันในช่วงการผลัดขึ้นของันแท้ของเด็กได้

โดยฟังก์ชั่นนี้จะเป้นการดีไซน์เครื่องมือมาให้เพื่อรองรับให้ฟันแท้ขึ้นได้ ซึ่งปัจจุบัน invisalign น่าจะเป็น clear aligner ยี่ห้อเดียวที่มีการทำฟังก์ชั่นนี้ โดยจะมีปุ่ม indicator บน aligner โดยทันตแพทย์จะทำการตรวจว่าเด็กๆ สามารถใส่ invisalign แต่ละคู่เพียงพอหรือไม่ นอกจากนี้ได้มีการพัฒนารูปแบบของ aligner ให้ทำหน้าที่จัดตำแหน่งขากรรไกรได้ด้วย ซึ่งจะไปส่งผลต่อการเจริญเติบโตของขากรรไกรในเด็กที่กำลังโต

ทั้งนี้หากผู้ปกครองต้องการให้ลูกหลานเข้ารับการจัดฟันแบบใส invisalign ทางคลีนิคของเรามีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ผ่านการอบรมการจัดฟันแบบใส invisalign และมีประสบการณ์การจัดฟันมาอย่างยาวนาน ให้คำปรึกษาและคำแนะนำ สำหรับการจัดฟันแบบใส invisalign ในเด็กหรือวัยรุ่น ทางเรามีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการและสามารถเข้ารับการปรึกษาได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

3
ซ่อมบำรุงอาคาร: การเปิดแอร์ในหน้าฝนว่าเปลืองไฟหรือไม่

ต้องบอกเลยว่า อากาศในเมืองไทยบ้านเรานั้น ถือว่ามีความแปรปรวนมาก บางวันก็ร้อนอบอ้าว จนทำให้เราหงุดหงิด หรือบางวันอาจจะมีฝนตกหนัก จนบางครั้งก็ไม่ทันได้เตรียมตัวรับมือ และยิ่งในช่วงนี้ เริ่มเข้าสู่หน้าหนาว บางวันมีฝน ทำให้หลายบ้านที่มีเครื่องปรับอากาศอาจจะไม่ได้ใช้งานเลย เพราะอากาศที่เย็นอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันก็จำเป็นที่จะต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ

แม้ง่าอากาศจะเย็นอยู่แล้ว แต่เราจะเปิดแอร์ในหน้าฝนหรือหน้าหนาวอย่างไรให้ประหยัดไฟ เชื่อว่า หลายครัวเรือนต้องมีแอร์หรือเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เครื่องปรับอากาศที่เราใช้งานอยู่ทุกวันๆนั้น เราใช้งานถูกต้องแล้ว หรือมีการปรับโหมดที่เหมาะสมแล้ว ซึ่งต้องบอกเลยว่า เครื่องปรับอากาศ

เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีแทบจะทุกหลังคาเรือน เพราะด้วยอากาศที่ร้อนมาก สลับกับการเกิดฝน โดยเฉพาะในช่วงที่เริ่มเข้าหน้าฝน บางบ้านอาจจะมีการเปิดแอร์เพื่อความสะดวกสบาย แต่จะเปิดแอร์ในหน้าฝน หลายคนสงสัยว่า การเปิดแอร์ในหน้าฝนนั้น เปลืองไฟหรือไม่ หรือจะทำให้แอร์ทำงานหนักหรือไม่ เพราะบางครั้งเมื่ออากาศข้างนอกเย็น อาจจะทำให้รู้สึกว่า แอร์ในห้องไม่เย็น จนสงสัยว่า มีปัญหากะบเครื่องปรับอากาศของเราหรือไม่ วันนี้เราจะพูดถึงการเปิดแอร์ในหน้าฝนว่าเปลืองไฟหรือไม่ เพื่อเป้นแนวทางให้กับคนที่จำเป็นต้องเปิดแอร์เป้นประจำ ได้สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องและถนอมแอร์ของเราให้ใช้งานไปได้อีกยาวๆ

  ต้องบอกก่อนว่า บางครั้งหากอุณหภูมิเย็นสบายแล้ว เราไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศก็ได้ เพื่อให้มีการระบายอากาศภายในห้องได้อย่างเพียงพอจากอากาศธรรมชาติ เนื่องจากการใช้งานในหน้าร้อนที่ต้องเปิดแอร์อยู่ตลอด อาจทำให้หลายๆบ้าน ไม่มีโอกาสได้เปิดหน้าต่างระบายอากาศเท่าที่ควร หรือถ้าหากต้องการเปิดแอร์เพื่อควบคุมอุณหภูมิในหน้าฝน แนะนำให้ใช้ Dry Mode โหมดลดความชื้น โดยเครื่องจะคำนวนแรงลมที่ออกมาโดยอัตโนมัติ เพื่อลดความชื้นในอากาศ และเนื่องจากเวลาฝนตกอุณหภูมิภายนอกจะลดลงต่ำ

 จึงไม่จำเป็นต้องให้มีการทำงานของคอมเพลสเซอร์ที่ให้ความเย็นมาก ซึ่งตัว Dry Mode จะคำนวนการทำงานโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าหากต้องเปิดแอร์จริงๆ ควรจะตั้งอุณหภูมิสูงเข้าไว้ เพื่อให้เหมาะสมกับอุณหภูมิในร่างกาย เป็นผลดีต่อสุขภาพ และช่วยประหยัดพลังงานไปในตัวอีกด้วย แต่ก็ต้องระมัดระวังในเรื่องของความชื้น เพราะหน้าฝนจะทำให้มีความชื้นค่อนข้างสูง ต้องระวังในเรื่องของไฟในตัวแอร์หรือไฟรั่วในตัวของแอร์ด้วย

เพราะถ้าเราไปสัมผัสโดนที่ตัวแอร์ หรือคอมเพรสเซอร์แอร์ เวลาที่แอร์ทำงานอาจจะโดนไฟช็อตได้ ดังนั้น จึงควรติดตั้งสายดิน เพื่อแก้ปัญหาไฟรั่ว และถ้าเกิดเราเปิดแอร์อยู่แล้วเกิด ไฟเกิดตกหรือดับขึ้นมากระทันหัน ให้เรารีบสับเบรกเกอร์ลงโดยเร็ว เพราะถ้าไฟตกแอร์บางรุ่นยังทำงานอยู่ก็อาจทำให้ฟิลเตอร์ที่คอยส์เย็นหรือคอมเพรสเซอร์แอร์ขาดได้ ถ้าไฟดับแล้วเกิดไฟติดขึ้นมากระทันหันโดยที่เรายังไม่ไปสับเบรกเกอร์ แอร์บางรุ่นทำงานเลย อาจทำให้ฟิลเตอร์คอยล์เย็นหรือคอมเพรสเซอร์แอร์ขาดได้

นอกจากนี้ ถ้าคอมเพรสเซอร์อยู่ที่พื้นแล้วฝนตกเยอะอาจจะทำให้น้ำท่วมขึ้นมาถึงคอมเพรสเซอร์ได้ เราควรยกคอมเพรสเซอร์ให้เหนือพื้นเพื่อป้องกันน้ำท่วมหรือป้องพวกสัตว์เข้าไปอยู่ในเครื่องครับ หรือถ้าฝนตกเยอะๆโดนคอมเพรสเซอร์เราก็สามารถหาอะไรมาบังที่ตัวคอมเพสเซอร์ได้ และที่สำคัญมากที่สุด เมื่อเข้าหน้าฝนก็ควรมีการตรวจสอบสภาพเครื่องกันหน่อยว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่

โดยเฉพาะสายไฟฟ้าที่ใช้ต่อเข้ากับเครื่องปรับอากาศ และเครื่องปรับอากาศต้องไม่ติดตั้งใกล้สารหรือวัตถุไวไฟ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน อย่างไรก็ตาม การเปิดแอร์ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหน ก็สิ้นเปลืองไฟได้ทั้งนั้น หากเราใช้งานไม่ถูกต้อง แต่ถ้าใช้งานอย่างถูกต้อง เปิดโหมดแอร์ที่เหมาะสมก็จะช่วยประหยัดค่าไฟไปได้เยอะเลยทีเดียว

 ทั้งนี้เราอยากให้ทุกคนได้เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่เหมาะสมกับคุณ ทางเรามีบริการดูแลระบบเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร ที่มีคนจำนวนมาก เพื่อที่จะได้สามารถใช้งานเครื่องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราถือว่า ระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะใช้ชีวิตในภายในอาคาร นั่นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าเราได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์และสะอาดเข้าไป ก็จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้สดชื่น สบายมากยิ่งขึ้น

4
ข้อควรระวังในการติดตั้งท่อลมร้อน

การติดตั้งท่อลมร้อนต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันอันตรายจากความร้อนและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ ข้อควรระวังในการติดตั้งท่อลมร้อนมีดังนี้:

1. การเลือกวัสดุและอุปกรณ์

เลือกท่อลมที่ได้มาตรฐาน:
ควรเลือกท่อลมที่ทำจากวัสดุที่ทนทานต่อความร้อนสูงและมีฉนวนกันความร้อนที่เหมาะสม
ตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หรือมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้อง

เลือกอุปกรณ์ติดตั้งที่เหมาะสม:
ใช้อุปกรณ์ติดตั้งที่ทนทานต่อความร้อน เช่น น็อต สกรู หรือข้อต่อที่ทำจากวัสดุที่เหมาะสม
ตรวจสอบอุปกรณ์ติดตั้งให้อยู่ในสภาพดีก่อนใช้งาน

2. การติดตั้ง

ติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ:
การติดตั้งท่อลมร้อนควรทำโดยผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าการติดตั้งถูกต้องและปลอดภัย

ตรวจสอบตำแหน่งติดตั้ง:
ติดตั้งท่อลมร้อนในตำแหน่งที่ไม่กีดขวางทางเดินหรือการทำงาน
หลีกเลี่ยงการติดตั้งใกล้กับวัสดุไวไฟหรือสารเคมีอันตราย

การระบายอากาศ:
ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการระบายอากาศที่เพียงพอในบริเวณที่ติดตั้งท่อลมร้อน เพื่อป้องกันความร้อนสะสม

การติดตั้งฉนวนกันความร้อน:
ติดตั้งฉนวนกันความร้อนรอบท่อลมร้อน เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนและลดความเสี่ยงต่อการเกิดแผลไหม้

การเชื่อมต่อ:
ตรวจสอบการเชื่อมต่อท่อลมร้อนให้แน่นหนา เพื่อป้องกันการรั่วไหลของอากาศร้อน
ใช้ปะเก็นหรือวัสดุซีลที่ทนความร้อนเพื่อป้องกันการรั่วไหล

3. ความปลอดภัยส่วนบุคคล

อุปกรณ์ป้องกัน:
สวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เช่น ถุงมือ แว่นตา และหน้ากาก เพื่อป้องกันอันตรายจากความร้อนและฝุ่นละออง

การตัดต่อ:
ระมัดระวังในการตัดต่อท่อลมร้อน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากเครื่องมือ

การยกท่อ:
ระมัดระวังในการยกท่อลมร้อน เพื่อป้องกันการตกหล่นหรือการบาดเจ็บจากน้ำหนัก

4. การตรวจสอบหลังการติดตั้ง

การทดสอบแรงดัน:
ทำการทดสอบแรงดันของท่อลมร้อน เพื่อตรวจสอบรอยรั่ว
ตรวจสอบการทำงานของระบบระบายอากาศ

การตรวจสอบอุณหภูมิ:
ตรวจสอบอุณหภูมิของท่อลมร้อนและบริเวณโดยรอบ เพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในระดับที่ปลอดภัย

การตรวจสอบประจำ:
กำหนดตารางการตรวจสอบท่อลมร้อนเป็นประจำ เพื่อหารอยรั่ว รอยแตก หรือความเสียหายอื่น ๆ

คำแนะนำเพิ่มเติม
ควรมีแผนฉุกเฉินในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้หรือการรั่วไหลของอากาศร้อน
ควรมีการฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานและดูแลรักษาท่อลมร้อนอย่างปลอดภัย

5
การสร้างอาชีพ จากการขายมะระขี้นก มีสารชาแรนตินช่วยลดน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้ สมุนไพรไทยที่ทุกบ้านต้องมี

มะระขี้นกเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่ใช้กันแพร่หลายในครัวเรือนของไทย แม้จะมีรสขมจัด แต่สมุนไพรชนิดนี้ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก จึงทำให้เป็นส่วนประกอบหลักทั้งในอาหารและยาสมุนไพรของไทย มะระขี้นก จัดเป็นไม้เถา มีผลขนาดเล็ก รูปร่างรี ยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ผิวขรุขระ มีปุ่มปม ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จัดเป็นสีเหลืองส้มและแตกอ้าออก เมล็ดแบนสีน้ำตาล มีเยื่อหุ้มสีแดง

มะระคืออะไร?
มะระขี้นกเป็นไม้เลื้อยเขตร้อนที่มีผลสีเขียวมีเปลือกเป็นปุ่มคล้ายแตงกวา มะระขี้นกเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศอบอุ่นของประเทศไทยและมักปลูกในสวนครัว ทั้งต้นรวมทั้งใบ ผล และเมล็ด สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคและปรุงอาหารได้หลากหลาย

ประโยชน์ต่อสุขภาพของมะระขี้นก

1. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
มะระขี้นกเป็นที่รู้จักกันดีว่าช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด มะระขี้นกมีสารชาแรนติน โพลีเปปไทด์-พี และวิซีนซึ่งเลียนแบบอินซูลินและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยเบาหวาน

2. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
มะระ อุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ต่อสู้กับการติดเชื้อ และปกป้องร่างกายจากการทำลายของอนุมูลอิสระ

3. ช่วยสนับสนุนสุขภาพระบบย่อยอาหาร
รสขมของมาราคินอคช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารและส่งเสริมสุขภาพลำไส้ ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกและเพิ่มความอยากอาหาร โดยเฉพาะเมื่อรับประทานเป็นชาหรือน้ำผลไม้

4. ช่วยลดน้ำหนัก
มะระมีแคลอรี่ต่ำแต่มีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยควบคุมน้ำหนักได้โดยทำให้รู้สึกอิ่มและปรับปรุงการเผาผลาญ

5. ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ
การรับประทานมะระเป็นประจำอาจช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL)และปรับปรุงสุขภาพหัวใจโดยรวมให้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

วิธีใช้มะระขี้นกที่บ้าน
● ในการปรุงอาหาร
มะระขี้นกมักใช้ในอาหารไทย โดยมักจะผัดกับไข่ ใส่ในซุป หรือยัดไส้หมูสับ การปรุงอาหารจะช่วยทำให้รสขมลดลง แต่ยังคงมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

● เป็นชาสมุนไพร
สามารถนำแผ่นมะระแห้งไปแช่ในน้ำร้อนเพื่อทำเป็นชาสมุนไพรที่ช่วยในการย่อยอาหารและล้างพิษ

● ในยาแผนโบราณ
สารสกัดมะระมีจำหน่ายในรูปแบบแคปซูลและน้ำผลไม้สำหรับผู้ที่ต้องการได้รับประโยชน์โดยไม่ต้องรับประทานผลไม้โดยตรง

ข้อควรระวัง
แม้ว่ามะระขี้นกจะมีประโยชน์มากมาย แต่การบริโภคมากเกินไปอาจทำให้เกิดน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemia)ไม่สบายท้อง หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนในระหว่างตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ที่รับประทานยาควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก่อนนำมะระขี้นกมารับประทาน

มะระขี้นกเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์หลากหลายและทรงพลังที่ทุกครัวเรือนของไทยควรมี ไม่ว่าจะใช้ปรุงอาหาร เป็นชา หรือทำเป็นยาแผนโบราณ สมุนไพรธรรมชาติชนิดนี้มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย จึงถือเป็นส่วนเสริมที่มีคุณค่าสำหรับวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี

6
ไวรัสตับอักเสบอี (Hepatitis E Virus)

ไวรัสตับอักเสบอี พบการระบาดครั้งแรกในประเทศอินเดีย แต่ปัจจุบันสามารถพบการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอีได้ทั้งในประเทศกำลังพัฒนาและประเทศพัฒนาแล้ว โดยสายพันธุ์ที่พบในแต่ละพื้นที่แตกต่างกันออกไป ไวรัสตับอักเสบอีมีทั้งหมด 8 สายพันธุ์ แต่มี 4 สายพันธุ์ที่ก่อโรคในคน ได้แก่ สายพันธุ์ที่ 1, 2, 3 และ 4

การติดต่อ

ไวรัสตับอักเสบอีติดต่อผ่านการรับประทานอาหารและน้ำดื่มที่ไม่สะอาด การระบาดของไวรัสตับอักเสบอีสายพันธุ์ที่ 1 และ 2 มักเกิดในประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากมาตรฐานความสะอาด มีการปนเปื้อนของอุจจาระในน้ำดื่ม เช่น ตามหลังการเกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม แล้วเผลอนำอุจจาระที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าปาก (Fecal oral route) ส่วนไวรัสตับอักเสบอีสายพันธุ์ที่ 3 และ 4 พบได้มากกว่าในประเทศไทยและประเทศพัฒนาแล้ว ติดต่อผ่านการรับประทานเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื้อหมู เนื่องจากหมูสามารถติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอีได้ ส่วนการติดต่อของไวรัสตับอักเสบอีจากคนสู่คนและจากแม่สู่ลูกนั้นพบได้น้อยมาก

อาการแสดง

เมื่อติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอีจะมีระยะฟักตัวอยู่ที่ 2-10 สัปดาห์ ผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอีส่วนมากมักไม่มีอาการ (Asymptomatic) และสามารถหายเองได้ (Self-limiting) ส่วนอาการอื่นที่พบได้ เช่น ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย (Flu-like symptom) เบื่ออาหาร ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม คันตามตัว ในบางรายอาจเกิดตับอักเสบ ตับวายเฉียบพลันได้ ส่วนการเกิดตับอักเสบเรื้อรังจากไวรัสตับอักเสบอีพบได้น้อย และพบในผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอีสายพันธุ์ที่ 3 และ 4 ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องเท่านั้น เช่น ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างให้ยาเคมีบำบัด ผู้ป่วยเอชไอวี เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้ไม่สามารถกำจัดเชื้อเองได้

อาการแสดงของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอีแตกต่างกันไปตามอายุ ลักษณะของผู้ป่วย ผู้ป่วยเด็กอาการมักไม่รุนแรง ในขณะที่หญิงตั้งครรภ์อาจมีอาการรุนแรงเกิดตับวายเฉียบพลัน และเสียชีวิตได้ รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการแท้งบุตร

การวินิจฉัย

ปัจจุบันจึงใช้การตรวจทาง Serology หาแอนตี้บอดี้ต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบอีในเลือด (Anti-HEV IgM และ IgG) เพื่อสนับสนุนการวินิจฉัยการติดเชื้อ

การวินิจฉัยหลักคือการยืนยันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอีได้โดยการตรวจหาปริมาณไวรัส (HEV RNA) ด้วยวิธี Polymerase chain reaction (PCR) แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดในการตรวจ สามารถส่งตรวจได้เฉพาะโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบางแห่ง จึงไม่เป็นที่นิยมใช้ในทางคลินิก

การรักษา

โดยทั่วไปการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอีสามารถหายเองได้ การรักษาจึงเป็นการรักษาประคับประคอง ให้ยาตามอาการ เช่น รับประทานอาหารอ่อน สุกสะอาด ให้ยาแก้อาเจียนหากมีอาการคลื่นไส้อาเจียนมาก ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงควรเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เพื่อเฝ้าระวังการเกิดภาวะตับวายเฉียบพลัน ส่วนผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอีเรื้อรัง อาจพิจารณาให้ยาต้านไวรัส

การป้องกัน

เนื่องจากไวรัสตับอักเสบอีติดต่อผ่านการรับประทานอาหารที่ไม่สุกสะอาด น้ำดื่มที่มีการปนเปื้อน การป้องกันจึงทำได้โดยรักษาสุขอนามัย รับประทานอาหารปรุงสุก น้ำต้มสุก

ส่วนวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบอีมีประสิทธิภาพดี สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 87% แต่ปัจจุบันมีใช้ในประเทศจีนเท่านั้น

7
จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบใส ต้องเลือกอะไรบ้างก่อนเข้ารับการรักษา

การจัดฟันแบบใส ถือเป็นนวัตกรรมการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะการจัดฟันแบบใสในรูปแบบนี้มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษา ทำให้มีผลการรักษาที่แม่นยำ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้การจัดฟันแบบใสเป็นที่สนใจและได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะในกลุ่มดารา นัดแสดง หรือคนที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพชิ่งปากและฟัน และอยากมีบุคลิกภาพที่ดี

ซึ่งต้องบอกว่า การจัดฟันแบบใสนั้น เป็นการจัดฟันที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้เข้ารับการจัดฟันเลย ทั้งยังสะดวกสบายในเรื่องของการดูแลช่องปากและฟันอีกด้วย หลายคนที่อยากเข้ารับการจัดฟัน คงจะสงสัยว่า ก่อนการเข้ารับการจัดฟันแบบใสนั้น เราจะต้องเลือกดูหรือศึกษารายละเอียดในเรื่องใดบ้าง เพื่อให้การจัดฟันมีผลการรักษาที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง และเป็นไปตามที่เราต้องการ ถึงแม้ว่า การจัดฟันแบบใส เราจะสามารถพูดคุยกับทันตแพทย์และร่วมกันวางแผนการรักษาได้ แต่เราก็ต้องเลือกดูรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับการเข้ารับการจัดฟันแบบใส เพื่อให้เราได้รับการรักษาที่ตรงโจทย์มากที่สุด

วันนี้ทางคลินิกเรามาจะพูดถึงประเด็นที่ว่า ก่อนการเข้ารับการรักษาผู้เข้ารับการจัดฟัน ควรที่จะศึกษาหรือเลือกดูอะไรบ้างก่อนเข้ารับการจัดฟันแบบใส เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางในการจัดฟัน ให้สามารถแก้ไขปัญหาของผู้เข้ารับการจัดฟันได้อย่างตรงจุด และสามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะได้ใช้งานฟันของเราได้อย่างเต็มที่ และไม่เกิดปัญหาในอนาคต

สำหรับการเข้ารับการจัดฟันแบบใส เราอยากให้คุณเลือกดูโปรแกรมการรักษาหรือรูปแบบการจัดฟันแบบใส ให้เหมาะสมกับปัญหามากที่สุด แต่ในข้อนี้ ทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาจะแนะนำให้อีกทีก่อนเข้ารับการรักษา ซึ่งต้องอธิบายก่อนว่า การเข้ารับการจัดฟันแบบใสนั้น มีด้วยกันหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีการรักษาและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป  เพราะมีจำนวนเครื่องมือและลูกเล่นในการใช้งาน


ซึ่งแน่นอนมันมีผลต่อการรักษาเคสยาก-ง่าย และยังมีราคาที่แตกต่างกันด้วย ต่อมาเราควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานตามหลักทันตกรรม อย่างที่คลินิกของเรามีมาตรฐานตามหลักสากล และยังมีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันแบบใส ทั้งยังได้รับการรับรองสูงสุดจาก INVISALIGN ให้สามารถให้บริการการจัดฟันแบบใสได้อย่างถูกต้อง มีความปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือด้วย ในเรื่องต่อมาก็คือเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเข้ารับการจัดฟันแบบใส

ซึ่งหลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า การจัดฟันแบบใส INVISALIGN มีราคาค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไร และทราบดีอยู่แล้วว่าปัญหาฟันของผู้เข้ารับการรักษานั้น มีความยากหรือง่าย ดังนั้น ผู้เข้ารับการรักษาอย่าฝืนใช้งบประมาณต่ำเกินไป แต่ทันตแพทย์ก็จะเลือกรูปแบบการรักษาที่ดีและมีประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับกับเราให้อยู่ดี ในเรื่องนี้ทางคลินิกของเราก็มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาในเรื่องของค่าใช้จ่าย ผู้เข้ารับการรักษาสามารถแบ่งจ่ายเป็นงวดได้ เพื่อที่จะได้สะดวกและได้รับการรักษาที่ต่อเนื่อง เพื่อให้คุณได้มีฟันที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างเต็มที่ 

ดังนั้น ผู้เข้ารับการรักษาไม่ต้องกังวลในเรื่องของค่าใช้จ่าย และในเรื่องของรูปแบบการรักษา เรามีทันตแพทย์ที่จะช่วยวิเคราะห์ถึงปัญหาของรูปร่างฟัน และเลือกรูปแบบการจัดฟันแบบใส ให้คุณอย่างเหมาะสมมากที่สุด

หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือข้อมูลจากทางคลินิกได้ เพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชายในเรื่องของการจัดฟัน และได้รับการรับรองสูงสุดจาก INVISALIGN เพื่อให้สามารถรักษาด้วยการจัดฟันแบบใสได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้เรามีสถานทันตกรรมที่มีความสะอาด น่าเชื่อถือ สามารถให้บริการลูกค้าด้วยความปลอดภัยอย่างแน่นอน เพราะเราใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของคุณ อยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและทำให้เรามีสุขภาพที่ดีด้วย

8
โทรศัพท์มือถือใหม่ 2025: ไอคู iQOO Z9x 5G (8GB/128GB)
7,999 บาท

ไอคู iQOO Z9x 5G (8GB/128GB)
แบตเตอรี่เเกรไฟต์ 6000 mAh + ชาร์จไว 80W FlashCharge
Snapdragon® 7 Gen 3
ระบบระบายความร้อน VC ขนาดใหญ่พิเศษ 6043 ตร.มม.
รูปแบบการดีไซน์ตัวเครื่องระดับเรือธง
จอภาพถนอมสายตา 1.5K 144 Hz
กล้องหลักใหม่ 50 MP เซนเซอร์ Sony IMX882
NFC
รีโมทคอนโทรลแบบอินฟราเรด

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น               ไอคู iQOO Z9x 5G (8GB/128GB)
   ราคากลาง            7,999 บาท
   จำนวนซิม             2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์            จอสัมผัส
   สี                     Black(Phantom Black), Green(Breeze Green)
   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM 850/900/1800 MHz)
3G(WCDMA B1/B5/B8)
4G(FDD-LTE B1/B3/B5/B8/B28A/B28B)
5G(n1/n3/n5/n8/n28/n38/n40/n41/n77/n78)

   ขนาด-น้ำหนัก                    ยาว 163.72 x กว้าง 75.88 x หนา 7.98 มม., น้ำหนัก 194.6 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)   128 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด       -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ        ความจุแบตเตอรี่ 6,000 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ                จอสัมผัส (AMOLED)
   ความละเอียด         6.78 นิ้ว, 452 ppi, 1,260 x 2,800 px
   รายละเอียดอื่น

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (16 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                               -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)            Snapdragon 7 Gen 3
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
   หน่วยความจำ (RAM)               8.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก              USB(2.0), Bluetooth(5.4), NFC, Wi-Fi(Wi-Fi Display; 2×2 MIMO; MU-MIMO; Wi-Fi 6)
   ระบบรับส่งข้อความ                     -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต          3G, WiFi, 4G, 5G
   ระบบ GPS                          ไม่มี

9
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: โรคหัด (Measles)

โรคหัด (Measles) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่เกิดจากเชื้อ Measles virus (ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Morbillivirus) เป็นโรคติดต่อที่แพร่กระจายได้ง่ายมาก จัดเป็นโรคที่เคยระบาดไปทั่วโลกก่อนที่จะมีวัคซีน การติดเชื้อหัดในผู้ใหญ่หรือในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

การติดต่อ
โรคหัดเป็นโรคที่ ติดต่อกันได้ง่ายมาก (Highly contagious) ผ่านทางอากาศ โดยการได้รับละอองฝอยขนาดเล็กจากทางเดินหายใจของผู้ป่วย เมื่อผู้ป่วยไอ จาม พูดคุย หรือหายใจ เชื้อไวรัสจะฟุ้งกระจายออกมาในอากาศ ละอองฝอยเหล่านี้สามารถลอยอยู่ในอากาศได้นานหลายชั่วโมง (สูงสุด 2 ชั่วโมงในพื้นที่ที่ผู้ป่วยเคยอยู่) และตกลงบนพื้นผิวต่างๆ

ผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ตั้งแต่ 4 วันก่อนที่ผื่นจะปรากฏขึ้น และต่อเนื่องไปอีก 4 วันหลังผื่นขึ้น นี่คือเหตุผลที่ทำให้การแพร่กระจายของโรคทำได้ง่าย เพราะผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้ก่อนที่จะรู้ตัวว่าป่วย

อาการของโรคหัด
อาการของโรคหัดมักจะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ:

ระยะอาการนำ (Prodromal Phase):

เริ่มด้วยอาการคล้ายไข้หวัดประมาณ 2-4 วัน
ไข้สูง: ไข้จะค่อยๆ สูงขึ้นเรื่อยๆ
น้ำมูกไหล:
ไอแห้งๆ:
ตาแดง ตาแฉะ แสบตา: อาจมีอาการไวต่อแสง
จุดคอปลิก (Koplik's Spots): เป็นจุดสีขาวอมเทาขนาดเล็ก มีขอบแดง ปรากฏขึ้นที่กระพุ้งแก้มตรงข้ามฟันกรามซี่ใน มักจะขึ้นในช่วง 2-3 วันแรกของโรคและหายไปเมื่อผื่นขึ้น เป็นอาการจำเพาะของโรคหัดที่สำคัญ

ระยะออกผื่น (Rash Phase):

หลังจากมีไข้สูง 3-4 วัน ผื่นจะเริ่มปรากฏ
ลักษณะผื่น: เป็นผื่นนูนแดงคล้ายปื้น อาจมีอาการคันร่วมด้วย
ลำดับการขึ้นของผื่น: มักจะเริ่มขึ้นที่บริเวณ ไรผม ใบหน้า (โดยเฉพาะหลังหูและหน้าผาก) ก่อน แล้วค่อยๆ ลามลงมาตามลำคอ ลำตัว แขน และขา ผื่นจะกระจายทั่วร่างกายใช้เวลาประมาณ 2 วัน
ในช่วงที่ผื่นขึ้น ไข้จะยังคงสูงอยู่ และอาการโดยรวมจะแย่ลง

ระยะฟื้นตัว (Recovery Phase):

เมื่อผื่นกระจายทั่วร่างกายแล้ว ไข้จะเริ่มลดลง และผื่นจะค่อยๆ จางหายไปตามลำดับที่ขึ้น โดยอาจทิ้งรอยคล้ำคล้ายรอยกระ หรือมีขุยลอกบางๆ
อาการอื่นๆ จะค่อยๆ ดีขึ้น

ภาวะแทรกซ้อนของโรคหัด
แม้ว่าในผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการจะหายได้เอง แต่โรคหัดสามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยและเป็นอันตราย ได้แก่:

ปอดอักเสบ (Pneumonia): เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่สำคัญในเด็กเล็ก
สมองอักเสบ (Encephalitis): เกิดขึ้นในประมาณ 1 ใน 1,000 รายที่ป่วยเป็นหัด อาจนำไปสู่ภาวะชัก หูหนวก หรือความพิการทางสติปัญญาถาวร
หูชั้นกลางอักเสบ (Otitis Media): ทำให้มีอาการปวดหู
ท้องร่วงรุนแรง (Severe Diarrhea) และภาวะขาดน้ำ:
ตาบอด: พบน้อย แต่สามารถเกิดขึ้นได้
ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องชั่วคราว: การติดเชื้อหัดอาจทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลงชั่วคราว (หรือที่เรียกว่า "immune amnesia") ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้ออื่นๆ ได้ง่ายขึ้นเป็นเวลาหลายเดือนถึงหลายปี
ในหญิงตั้งครรภ์: หากติดเชื้อหัดขณะตั้งครรภ์ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด หรือทารกมีน้ำหนักแรกเกิดน้อย (แต่ไม่ได้เป็นกลุ่มอาการหัดเยอรมันแต่กำเนิดเหมือน Rubella)
SSPE (Subacute Sclerosing Panencephalitis): เป็นภาวะสมองเสื่อมที่รุนแรงและหายากมาก เกิดจากไวรัสหัดยังคงอยู่ในสมองเป็นเวลานานหลายปีหลังจากติดเชื้อครั้งแรก มักจะเกิดขึ้น 7-10 ปีหลังจากการติดเชื้อหัดในวัยเด็ก


การวินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยโรคหัดโดย:

การซักประวัติและตรวจร่างกาย: โดยเฉพาะการสังเกตลักษณะผื่นและจุดคอปลิก
การตรวจเลือด: เพื่อหาภูมิคุ้มกันต่อเชื้อหัด (IgM Measles Antibody) ซึ่งบ่งชี้ถึงการติดเชื้อเฉียบพลัน หรือตรวจหา IgG Measles Antibody เพื่อดูภูมิคุ้มกันในร่างกาย
การเก็บตัวอย่างจากระบบทางเดินหายใจ: เช่น น้ำมูก หรือปัสสาวะ เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัส


การรักษา
ปัจจุบัน ยังไม่มียาต้านไวรัสเฉพาะสำหรับโรคหัด การรักษาจึงเป็นการรักษาแบบประคับประคองตามอาการ และป้องกันภาวะแทรกซ้อน:

การให้ยาลดไข้: เช่น ยาพาราเซตามอล (ห้ามใช้แอสไพรินในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงของ Reye's Syndrome)
การดูแลอาการทั่วไป: ดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำความสะอาดตาด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น
ให้วิตามินเอเสริม: ในผู้ป่วยเด็ก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากวิตามินเอช่วยลดความรุนแรงของโรคและลดอัตราการเสียชีวิตจากหัดและภาวะแทรกซ้อนได้
การรักษาภาวะแทรกซ้อน: หากมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ หูอักเสบ แพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียที่แทรกซ้อน


การป้องกัน
วิธีป้องกันโรคหัดที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน (MMR vaccine) ซึ่งเป็นวัคซีนรวมป้องกัน 3 โรค:

ในเด็ก: โดยทั่วไปจะฉีด 2 เข็มตามกำหนดการฉีดวัคซีนพื้นฐาน:
เข็มที่ 1: เมื่ออายุ 9-12 เดือน
เข็มที่ 2: เมื่ออายุ 2 ปีครึ่ง
ในผู้ใหญ่: ผู้ที่ยังไม่เคยเป็นหัด หรือไม่เคยได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ควรพิจารณาฉีดวัคซีน MMR เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน


ข้อควรปฏิบัติอื่นๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ:

ผู้ป่วยควรหยุดเรียน/หยุดงาน: และแยกตัวจากผู้อื่น อย่างน้อย 4 วันนับจากวันที่ผื่นปรากฏขึ้น หรือจนกว่าแพทย์จะยืนยันว่าไม่แพร่เชื้อแล้ว
สวมหน้ากากอนามัย:
ปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม: ใช้กระดาษทิชชูและทิ้งลงถังขยะทันที
ล้างมือบ่อยๆ:
หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด: กับทารก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หากสงสัยว่าตนเองติดเชื้อ

โรคหัดยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่เข้าถึงวัคซีนได้น้อย ดังนั้น การฉีดวัคซีนจึงเป็นมาตรการป้องกันที่สำคัญที่สุดในการควบคุมและกำจัดโรคนี้

10
รถยนต์ไฟฟ้า เฌอรี่ Chery Arrizo 8L PHEV CSH ปี 2025

Chery Arrizo 8L PHEV CSH ปี 2025 เป็นรถยนต์ซีดานขนาดกลางถึงใหญ่ (D-segment sedan) แบบ Plug-in Hybrid (PHEV) ที่ Chery เตรียมนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในฐานะเรือธงของรถยนต์ซีดานของแบรนด์ โดดเด่นด้วยดีไซน์หรูหรา ฟังก์ชันการใช้งานที่ล้ำสมัย และขุมพลัง CSH (Chery Super Hybrid) ที่มีประสิทธิภาพสูง

ภาพรวมและสถานะในประเทศไทย
Chery Arrizo 8L PHEV CSH ได้รับการเผยโฉมครั้งแรกในประเทศไทยที่งาน Motor Show 2025 โดย Chery ยืนยันแผนการนำรถรุ่นนี้เข้ามาทำตลาดในประเทศอย่างเป็นทางการในปี 2025 นี้ ซึ่งจะเป็นการนำเข้ารุ่นประกอบสำเร็จ (CBU) ในช่วงแรก

ราคาในประเทศไทย: ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2568 (ปัจจุบัน) ยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทย จากข้อมูลในตลาดจีน (ในชื่อ Fulwin A8L C-DM) ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 165,900 – 175,900 หยวน ซึ่งเทียบเป็นเงินไทยจะอยู่ที่ประมาณ 770,000 – 820,000 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตของไทย) ดังนั้น ราคาจำหน่ายในประเทศไทยคาดว่าจะสูงกว่านี้มาก อาจจะอยู่ในช่วง 1.3 – 1.6 ล้านบาท (เป็นเพียงการคาดการณ์เบื้องต้น และอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง)

ขุมพลังและสมรรถนะ (PHEV CSH - Chery Super Hybrid)

Chery Arrizo 8L PHEV CSH ใช้เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดขั้นสูง "CSH (Chery Super Hybrid)" ที่เน้นทั้งสมรรถนะและความประหยัด:

เครื่องยนต์: เบนซิน 4 สูบ TGDI (Turbocharged Gasoline Direct Injection) ขนาด 1.5 ลิตร ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับระบบไฮบริด (Dedicated Hybrid Engine)
กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์สันดาป: ประมาณ 115 kW (หรือประมาณ 154 แรงม้า)
แรงบิดสูงสุดของเครื่องยนต์สันดาป: ประมาณ 220 นิวตันเมตร
มอเตอร์ไฟฟ้า: มอเตอร์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง
กำลังสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้า: โดยรวมของระบบอาจอยู่ที่ประมาณ 102 แรงม้า (มอเตอร์ตัวเดียว หรือรวมหลายตัว ขึ้นอยู่กับสถาปัตยกรรมของ CSH ในรุ่นนี้)
กำลังรวมสูงสุดทั้งระบบ (Combined System Output): ประมาณ 360 แรงม้า (PS)
แรงบิดรวมสูงสุด: ประมาณ 530 นิวตันเมตร
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ไฮบริด DHT (Dedicated Hybrid Transmission)
ระบบขับเคลื่อน: ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ประมาณ 7.6 วินาที
แบตเตอรี่: Lithium Iron Phosphate (LFP) ขนาดประมาณ 18.67 kWh
ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน (EV Mode - CLTC): สูงสุดประมาณ 106 กิโลเมตร
ระยะทางวิ่งรวม (Combined Range): มีรายงานว่ามากกว่า 1,300 กิโลเมตร
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (WLTC): คาดว่าจะทำได้ดีมาก เช่น 4 ลิตร/100 กม. หรือประมาณ 25 กม./ลิตร ในโหมดไฮบริด

ดีไซน์ภายนอก
Chery Arrizo 8L PHEV CSH มีดีไซน์ที่หรูหรา สง่างาม และให้ความรู้สึกพรีเมียมในแบบรถซีดาน:

มิติตัวถัง: ยาวประมาณ 4,780 มม. x กว้าง 1,843 มม. x สูง 1,469 มม.
ระยะฐานล้อ: 2,790 มม.
ดีไซน์: เส้นสายโฉบเฉี่ยว กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่ดูโดดเด่นและพรีเมียม
ไฟหน้าและไฟท้าย: Full LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential (Dynamic Turn Signals)
ล้ออัลลอย: ขนาด 18-19 นิ้ว ดีไซน์หรูหรา
หลังคา: Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่

ภายในและความสะดวกสบาย
ห้องโดยสารของ Arrizo 8L PHEV CSH เน้นความหรูหรา เทคโนโลยี และความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร:

แผงหน้าปัด: หน้าจอคู่ขนาดใหญ่ (Dual 12.3-inch Integrated HD LCD Displays) หรืออาจจะเป็นขนาด 24.6 นิ้วในบางรุ่นย่อย
ระบบ Infotainment: รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง AI-powered
เบาะนั่ง: หุ้มด้วยหนังคุณภาพสูง อาจมีฟังก์ชันปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ (Memory Function) ระบบทำความร้อน (Heated Seats) และระบายอากาศ (Ventilated Seats)
ระบบปรับอากาศ: อัตโนมัติ Dual-zone
ระบบเสียง: ลำโพงคุณภาพสูง (เช่น SONY Sound System 8-10 ลำโพง)
ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient Lighting): ปรับได้หลายสี
แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย (Wireless Charging):
ช่องเสียบ USB: ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS)
Chery Arrizo 8L PHEV CSH คาดว่าจะมาพร้อมระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ที่ครบครัน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด:

ถุงลมนิรภัย: 6-10 ตำแหน่ง (เช่น คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านถุงลมนิรภัย, ถุงลมกันหัวเข่า)
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (TCS)
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) มากกว่า 18 ระบบ (Level 2 semi-autonomous driving capabilities):
Adaptive Cruise Control (ACC) พร้อม Stop & Go
Lane Keeping Assist (LKA) และ Lane Departure Warning (LDW)
Blind Spot Monitoring (BSM) และ Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
Forward Collision Warning (FCW) และ Autonomous Emergency Braking (AEB)
Traffic Jam Assist (TJA)
ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา พร้อมฟังก์ชัน Transparent Chassis (มองทะลุพื้น)
ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Automatic Parking Assist)

Chery Arrizo 8L PHEV CSH ปี 2025 จึงเป็นรถยนต์ซีดาน PHEV ที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในตลาดประเทศไทย ด้วยดีไซน์ที่หรูหรา ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน และสมรรถนะของระบบไฮบริดที่ทรงพลังและประหยัดน้ำมัน ซึ่งจะเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจในตลาดรถยนต์ซีดาน

11
จัดฟันบางนา: วิธีการจัดฟันแบบใส invisalign ในเด็ก !

เป็นที่ทราบกันดีว่า การจัดฟันถือเป็นที่นิยมมากในวัยรุ่น และการจัดฟันแบบใส invisalign ในเด็กก็ถือว่าเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน ด้วย invisalign เรามีฟังก์ชั่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับการเจริญเติบโตของฟันในเด้กและวัยรุ่น เรียกว่า invisalign teen ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับพฤติกรรมของเด็ก และการเจริญเติบโตของฟันในช่วงการผลัดขึ้นของันแท้ของเด็กได้

โดยฟังก์ชั่นนี้จะเป้นการดีไซน์เครื่องมือมาให้เพื่อรองรับให้ฟันแท้ขึ้นได้ ซึ่งปัจจุบัน invisalign น่าจะเป็น clear aligner ยี่ห้อเดียวที่มีการทำฟังก์ชั่นนี้ โดยจะมีปุ่ม indicator บน aligner โดยทันตแพทย์จะทำการตรวจว่าเด็กๆ สามารถใส่ invisalign แต่ละคู่เพียงพอหรือไม่ นอกจากนี้ได้มีการพัฒนารูปแบบของ aligner ให้ทำหน้าที่จัดตำแหน่งขากรรไกรได้ด้วย ซึ่งจะไปส่งผลต่อการเจริญเติบโตของขากรรไกรในเด็กที่กำลังโต

ทั้งนี้หากผู้ปกครองต้องการให้ลูกหลานเข้ารับการจัดฟันแบบใส invisalign ทางคลีนิคของเรามีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ผ่านการอบรมการจัดฟันแบบใส invisalign และมีประสบการณ์การจัดฟันมาอย่างยาวนาน ให้คำปรึกษาและคำแนะนำ สำหรับการจัดฟันแบบใส invisalign ในเด็กหรือวัยรุ่น ทางเรามีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการและสามารถเข้ารับการปรึกษาได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย


จัดฟันแบบใส invisalign จะทานอะไรก็ได้ จริงหรือ ?

การจัดฟันแบบใส invisalign กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ด้วยวิธีการรักษาที่ทันสมัย เครื่องมือที่ก้าวล้ำไปมากกว่าสมัยก่อน ซึ่งในสมัยก่อนคนยังนิยมการจัดฟันแบบใส่เหล็กจัดฟันอยู่ ซึ่งหลายคนที่เคยใส่เหล็กจัดฟันจะทราบดีว่า การรับประทานอาหารนั้น ถือเป็นเรื่องที่คำนึงถึงเป็นอย่างมาก เนื่องจากความไม่สะดวกสบายของเครื่องมือจัดฟันที่ติดตั้งอยู่ภายในช่องปาก ทำให้รับประทานอาหารได้ไม่หลากหลาย อีกทั้งยังต้องกังวลเรื่องของ เศษอาหารที่จะเข้าไปติดอยู่ภายในซอกเหล็กด้วย

การจัดฟันแบบใส invisalign ถือเป็นการตอบโจทย์ในเรื่องของการรับประทานอาหารได้ เพราะสามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย ไม่ต้องกังวลว่า เครื่องมือจะหลุดในขณะที่ท่านรับประทานอาหาร และไม่ต้องกังวลว่าเศษอาหารจะตกค้างอยู่ในซอกเหล็ก เพราะการจัดฟันแบบใสนั้น สามารถถอดเครื่องมือได้ขณะรับประทานอาหาร และเวลาแปรงฟัน ซึ่งถือว่าสะดวกสบายมาก เพราะจะได้รับประทานได้อย่างเต็มที่

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การจัดฟันแบบใส invisalign ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหารของบุคคลบางกลุ่มที่ชอบรับประทานจุกจิก เพราะต้องคอนถอดเคึรื่องมือเข้าๆออกๆ ทุกครั้ง เวลาจะรับประทานอะไรก็อาจจะไม่สะดวก รวมไปถึงคนที่ชอบดื่มกาแฟบ่อย ก็อาจจะมีผลกระทบไปถึงเครื่องมือ ที่อาจจะมีสีกาแฟไปติดเครื่องมือได้ ซึ่งพฤติกรรมข้างต้นก็จะส่งผลกระทบต่อการจัดฟันแบบใส invisalign ได้ เพราะฉะนั้นจะต้องมีวินัยและมีการดูแลเอาใจใส่สุขภาพช่องปากมากเป็นพิเศษ

12
หมอออนไลน์: เริมในช่องปากชนิดเฉียบพลัน (Acute herpetic gingivostomatitis) เฮอร์แปงไจนา (Herpangina)

ทั้ง 2 โรคนี้เป็นแผลเปื่อยในช่องปากที่เกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งพบได้บ่อยในเด็ก มีอาการแสดงคล้ายกัน คือ มีไข้ และแผลเปื่อยหลายแห่งในช่องปาก ทำให้เจ็บปากกลืนลำบาก อาจกินอาหารและดื่มน้ำได้น้อยจนเกิดภาวะขาดน้ำได้

สาเหตุ

เริมในช่องปากชนิดเฉียบพลัน เกิดจากการติดเชื้อครั้งแรก มักเกิดจากเชื้อไวรัสเริมชนิดที่ 1 (herpes simplex virus/HSV-1) เป็นส่วนใหญ่ พบบ่อยในเด็กอายุ 10 เดือนถึง 3 ปี ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง ระยะฟักตัว 2-3 วัน (อาจนานถึง 20 วัน)

เฮอร์แปงไจนา เกิดจากการติดเชื้อไวรัสค็อกแซกกี (coxsackie virus) ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรคมือ-เท้า-ปาก แต่เป็นชนิดเอ 2-6 และเอ 10 พบบ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง ระยะฟักตัว 2-9 วัน

อาการ

เด็กมักมีไข้สูงเกิดขึ้นเฉียบพลัน มีอาการเจ็บในปากหรือคอหอย ไม่ยอมกินอาหารและดื่มน้ำ เด็กเล็กอาจร้องกวน ไม่ยอมดูดนม ถ้าเป็นอยู่หลายวันอาจมีภาวะขาดน้ำตามมา ไข้มักจะเป็นอยู่ 1-4 วัน (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) เด็กเล็กบางคนอาจมีอาการชักจากไข้

ส่วนแผลในปากมีลักษณะดังนี้

    สำหรับโรคเริม จะมีตุ่มน้ำเล็ก ๆ พุขึ้นที่เยื่อบุของริมฝีปาก เหงือก ลิ้น และเพดานปาก แล้วแตกเป็นแผลตื้นสีเทาบนพื้นสีแดง ขนาด 1-3 มม. มักมีอาการเหงือกบวมแดง ซึ่งอาจมีเลือดซึมและมีกลิ่นปาก มักตรวจพบต่อมน้ำเหลืองใต้คางโตและเจ็บ อาการต่าง ๆ จะเป็นอยู่ประมาณ 4-5 วันแล้วจะเริ่มทุเลา แผลมักหายได้เองภายใน 10-14 วัน
    สำหรับเฮอร์แปงไจนา จะมีจุดแดงหรือตุ่มน้ำเล็ก ๆ พุขึ้นที่เพดานอ่อน ลิ้น ลิ้นไก่ ผนังคอหอย  ทอนซิล แล้วแตกเป็นแผลสีขาวปนเทา ขนาด 2-5 มม. ซึ่งมักหายได้เองภายใน 5-7 วัน


ภาวะแทรกซ้อน

ที่พบบ่อย คือ ทำให้กินอาหารและดื่มน้ำได้น้อย เกิดภาวะขาดน้ำได้

สำหรับโรคเริม เชื้ออาจแพร่ไปที่กระจกตา ทำให้กระจกตาอักเสบถึงสายตาพิการได้ (ดังนี้ ทุกครั้งที่สัมผัสถูกแผลเริม ควรล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปที่กระจกตา)


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกายเป็นหลัก ซึ่งมักตรวจพบไข้ ตุ่มน้ำเล็ก ๆ ในช่องปาก ต่อมน้ำเหลืองใต้คางโตและเจ็บ บางรายพบภาวะขาดน้ำ


ในรายที่เป็นเรื้อรังหรือสงสัยว่าเกิดจากสาเหตุอื่น แพทย์จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น การตรวจเพาะเชื้อ การตรวจชิ้นเนื้อ เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

1. ให้การรักษาตามอาการ ได้แก่ ให้ยาพาราเซตามอลลดไข้

แนะนำให้พยายามป้อนอาหารเหลวหรือของน้ำ ๆ (เช่น นม น้ำเต้าหู้ น้ำหวาน ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด) โดยใช้ช้อนป้อนหรือกระบอกฉีดยาค่อย ๆ หยอดเข้าปาก ให้เด็กอมน้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ ดื่มน้ำหรือนมเย็น ๆ หรือกินไอศกรีมเพื่อลดอาการ

ในรายที่เจ็บแผลรุนแรง (ซึ่งพบได้น้อย) แพทย์อาจหายาชาชนิดเจลป้ายแผลในปากเพื่อลดปวด

2. ถ้ามีภาวะขาดน้ำหรือกินไม่ได้ แพทย์จะให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ

3. ถ้าวินิจฉัยว่าเป็นเริมในช่องปาก แพทย์จะพิจารณาให้ยาต้านไวรัส เช่น อะไซโคลเวียร์ นาน 7 วัน

4. หากอาการไม่ทุเลาภายใน 4-7 วัน หรือสงสัยว่าเกิดจากสาเหตุอื่น จะทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม และให้การรักษาตามสาเหตุที่ตรวจพบ

ผลการรักษา มักจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์


การดูแลตนเอง

หากมีแผลเปื่อยในปากที่ปวดเจ็บมาก กินอาหารและดื่มน้ำลำบาก หรือมีไข้ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์ 

เมื่อตรวจพบว่าเป็นเริมในช่องปากชนิดเฉียบพลัน หรือเฮอร์แปงไจนา ควรดูแลรักษา ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้าอาการไม่ทุเลาใน 4-7 วัน, มีไข้กำเริบใหม่, กินอาหารไม่ได้หรือดื่มน้ำได้น้อย, มีอาการที่สงสัยว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาหรือแพ้ยา หรือมีความวิตกกังวล


การป้องกัน

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นมีตุ่มตามผิวหนังหรือเยื่อเมือก หรือผู้ที่มีแผลเปื่อยในช่องปาก 

2. ไม่ใช้สิ่งของเครื่องใช้ (เช่น จาน ชาม แก้วน้ำ มีดโกน ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า เครื่องสำอาง) ร่วมกับผู้อื่น

3. หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ หลังสัมผัสตัวผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเริมหรือเฮอร์แปงไจนา

ข้อแนะนำ

เด็กที่มีไข้และแผลเปื่อยในปาก ควรแยกออกจากโรคมือ-เท้า-ปาก ซึ่งจะมีผื่นขึ้นที่มือและเท้าร่วมด้วย และกลุ่มอาการสตีเวนส์จอห์นสัน ซึ่งจะมีผื่นขึ้นตามตัวร่วมด้วย

13
สภาพแวดล้อมและเงื่อนไขการใช้งานท่อลมร้อน

สภาพแวดล้อมและเงื่อนไขการใช้งานเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณาเลือกประเภทของท่อลมร้อน การออกแบบ และการบำรุงรักษา เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน การประเมินปัจจัยเหล่านี้อย่างละเอียดจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง:

1. อุณหภูมิของลมร้อน (Air Temperature)

อุณหภูมิใช้งานปกติ (Normal Operating Temperature): อุณหภูมิเฉลี่ยของลมร้อนที่ไหลผ่านท่อขณะระบบทำงานปกติ
อุณหภูมิสูงสุดที่อาจเกิดขึ้น (Peak/Max Temperature): อุณหภูมิสูงสุดที่ระบบอาจทำได้ หรือที่อาจเกิดขึ้นในสภาวะผิดปกติชั่วคราว (เช่น ระบบ Overheat ชั่วขณะ) ต้องเลือกวัสดุและฉนวนที่ทนทานต่ออุณหภูมิสูงสุดนี้ได้
อุณหภูมิต่ำสุด (Minimum Temperature): ในบางกรณี (เช่น การระบายไอเสีย) อาจต้องพิจารณาอุณหภูมิต่ำสุดที่ท่ออาจเจอ (เช่น อุณหภูมิอากาศโดยรอบในฤดูหนาว หรือเมื่อระบบหยุดทำงาน) เพื่อป้องกันการหดตัวที่รุนแรงหรือการเกิดการควบแน่น


2. สารปนเปื้อนในลมร้อน (Contaminants in Airflow)

ฝุ่นละออง/อนุภาค (Dust/Particulates):
ประเภท: มีฝุ่นละเอียด, ฝุ่นหยาบ, หรืออนุภาคแข็ง เช่น เศษโลหะ, ผงไม้, เส้นใย, เขม่าควัน
ผลกระทบ: อาจสะสมภายในท่อ ทำให้เกิดการอุดตัน ลดประสิทธิภาพการไหลเวียนของลม หรือทำให้เกิดการสึกหรอ (Abrasion) ที่ผนังท่อจากการเสียดสี
การเลือกท่อ: ควรเลือกท่อที่มีพื้นผิวภายในเรียบ (เช่น ท่อสไปร่อน) และวัสดุที่ทนทานต่อการเสียดสี อาจต้องมีระบบกรองอากาศหรือช่องเปิดสำหรับทำความสะอาด
ความชื้น/ไอน้ำ (Moisture/Steam):
ผลกระทบ: ทำให้เกิดการกัดกร่อน (สนิม) ในท่อเหล็กชุบสังกะสี หากอุณหภูมิลดลงต่ำกว่าจุดน้ำค้าง (Dew Point) จะเกิดการควบแน่นของไอน้ำภายในท่อ ทำให้เกิดหยดน้ำสะสม หรืออาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อ (ในอุตสาหกรรมอาหาร)
การเลือกท่อ: สแตนเลสเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับงานที่มีความชื้นสูง
สารเคมี/ไอระเหย (Chemical Vapors/Gases):
ประเภท: กรด, ด่าง, ตัวทำละลาย, สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs)
ผลกระทบ: สารเคมีเหล่านี้สามารถกัดกร่อนวัสดุท่อบางชนิด ทำให้ท่อเสื่อมสภาพเร็ว เกิดการรั่วไหล หรืออาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาอันตราย
การเลือกท่อ: จำเป็นต้องใช้สแตนเลสเกรดที่ทนทานต่อสารเคมีเฉพาะนั้นๆ หรือวัสดุพิเศษที่มีการเคลือบผิวเพื่อป้องกันการกัดกร่อน


3. แรงดันลม (Static Pressure)

แรงดันบวก (Positive Pressure): ลมถูกเป่าเข้าสู่ท่อด้วยแรงดัน
แรงดันลบ/แรงดูด (Negative Pressure/Vacuum): ระบบดูดอากาศร้อนออก ซึ่งทำให้เกิดแรงดูดภายในท่อ
ผลกระทบ:
ท่อต้องมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะทนต่อแรงดันทั้งบวกและลบได้โดยไม่บิดเบี้ยว, โป่งพอง, หรือยุบตัว
ท่ออ่อน (Flexible Duct) มีขีดจำกัดในการทนแรงดันสูง โดยเฉพาะแรงดูด


4. สภาพแวดล้อมภายนอกท่อ (External Environment)

ภายในอาคาร/ภายนอกอาคาร:
ภายนอกอาคาร: ท่อต้องทนทานต่อสภาพอากาศที่รุนแรง เช่น แสงแดดจัด, ฝน, หิมะ, อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว, ลมแรง, รังสี UV วัสดุหุ้มฉนวนภายนอกต้องเป็นเกรดที่ทนแดดทนฝน

ภายในอาคาร: โดยทั่วไปจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้ดีกว่า แต่ยังคงต้องคำนึงถึงความชื้น, สารเคมี, หรือความร้อนจากอุปกรณ์อื่นๆ

การกัดกร่อนจากภายนอก:
มีไอเกลือ (ในพื้นที่ชายทะเล), สารเคมีรั่วไหล, หรือไอเสียในอากาศที่อาจกัดกร่อนท่อจากภายนอก

การสั่นสะเทือน (Vibration):
มีแหล่งกำเนิดการสั่นสะเทือนจากเครื่องจักรขนาดใหญ่ใกล้เคียงหรือไม่? การสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องอาจทำให้รอยต่อคลายตัวหรือโครงสร้างท่อเสียหายได้
การออกแบบ: ควรมีการติดตั้งอุปกรณ์ลดการสั่นสะเทือน (Vibration Isolators) หรือใช้ท่ออ่อนเป็นตัวเชื่อมต่อในบางจุด


5. ข้อจำกัดด้านพื้นที่และการติดตั้ง (Space & Installation Constraints)

พื้นที่ว่าง: มีพื้นที่เพียงพอสำหรับติดตั้งท่อลมขนาดใหญ่ หรือจำเป็นต้องใช้ท่อที่มีรูปทรงเฉพาะ (เช่น ท่อเหลี่ยม) เพื่อประหยัดพื้นที่หรือไม่?
การเข้าถึงเพื่อบำรุงรักษา: สามารถเข้าถึงท่อเพื่อตรวจสอบ, ทำความสะอาด, หรือซ่อมแซมได้ง่ายหรือไม่? ควรมีช่องเปิด (Access Panels) ในจุดที่สำคัญ
ความสวยงาม/การโชว์: ท่อลมจะถูกติดตั้งแบบซ่อนหรือแบบโชว์? (สแตนเลสอาจถูกเลือกเพื่อความสวยงามในบางกรณี)


6. ข้อกำหนดและมาตรฐาน (Regulations & Standards)

มาตรฐานอุตสาหกรรม: อุตสาหกรรมบางประเภท (เช่น อาหาร, ยา, อิเล็กทรอนิกส์) มีข้อกำหนดที่เข้มงวดเกี่ยวกับวัสดุ, สุขอนามัย, และการควบคุมการปนเปื้อน
รหัสอาคาร/ข้อบังคับท้องถิ่น: อาจมีข้อกำหนดเกี่ยวกับความปลอดภัยจากอัคคีภัย, การระบายอากาศ, และการใช้วัสดุ
ข้อกำหนดด้านพลังงาน: มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงานอาจกำหนดความหนาของฉนวนที่ต้องใช้

การประเมินสภาพแวดล้อมและเงื่อนไขการใช้งานเหล่านี้อย่างละเอียดจะช่วยให้คุณสามารถเลือกประเภทท่อลมร้อนที่เหมาะสมที่สุด รวมถึงการออกแบบและติดตั้งระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และคุ้มค่าในระยะยาว การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าทุกปัจจัยได้รับการพิจารณาอย่างครบถ้วน.

14
ซ่อมบำรุงอาคาร: เลือกตำแหน่งติดตั้งแอร์บ้านอย่างไร ให้เย็นทั่วห้อง

หลายคนทราบกันดีว่า อาากาศในบ้านเรานั้น ร้อนอบอ้าวตลอดทั้งปี สำหรับบ้านใครที่มีเครื่องปรับอาหาศ ก็สามารถคลายร้อนได้บ้าง แต่หลายบ้านที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศก็ต้องทนร้อนไปตลอดทั้งวัน สำหรับคนที่มีแอร์ หลายคก็อาจจะต้องเจอกับค่าไฟที่แพงในแต่ละเดือน ซึ่งต้องแลกกับความเย็นสบาย ยิ่งในหน้าร้อนอากาศก็ยิ่งร้อนจนทำให้แอร์ต้องทำงานหนักมากขึ้น ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากความสกปรกของแอร์ หรือตำแหน่งวางแอร์ที่ไม่เหมาะสม อาจจะทำให้ความเย็นไม่สามารถกระจายไปได้ทั่วห้อง ดังนั้น การวางตำแหน่งแอร์ที่ดี ก็มีความสำคัญมากเช่นเดียว ยิ่งเราติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมและถูกต้อง นอกจากจะทำให้ห้องเย็นสบายแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าจำนวนมหาศาลได้อีกด้วย เพียงแค่เราติดตั้งแอร์ในตำแหน่งที่ดี

ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงการเลือกตั้งติดตั้งแอร์ที่จะช่วยให้ความเย็นกระจายทั่วทั้งห้อง เพราะการวางตำแหน่งแอร์สามารถทำให้แอร์กระจายได้ทั่วถึง ไม่ทำงานหนัก แถมยังทำให้เราไม่เสียสุขภาพอีกด้วย

สำหรับตำแหน่งในวางแอร์ในห้องนอนเราเราควรวางแอร์ให้ลมแอร์เป่าไปในแนวขวาง ขณะที่ร่างกายได้รับการพักผ่อนนอนหลับอยู่บนเตียง ร่างกายจะมีอุณหภูมิลดลงจึงต้องวางตำแหน่งแอร์ให้ลมเป่าไปในแนวขวางของเตียงนอน เพื่อไม่ให้ความเย็นปะทะเข้ากับร่างกายโดยตรง วิธีนี้จะทำให้เราไม่ป่วยง่ายและทำให้แอร์เป่าลมเย็นสบายไปทั่วห้องอีกต่างหาก และในการติดตั้งแอร์ เราจะต้องดูรูปทรงห้องหรือลักษณะของห้องว่าห้องเป็นรูปทรงแบบไหน รวมถึงมีขนาดห้องเล็ก กลาง หรือใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่คอนโดหรือบ้านมักจะออกแบบเป็น รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ดังนั้นการติดตั้งแอร์ควรเป็นแนวยาว เพื่อให้ความเย็นกระจายได้อย่างทั่วถึงทุกมุมห้องนั่นเอง และที่สำคัญมากที่สุดคือ ควรเลือกตำแหน่งที่ทำความสะอาดได้สะดวก เพราะแอร์ของเราควรได้รับการดูแลทำความสะอาดอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

นอกจากจะช่วยทำให้แอร์มีความสะอาด ให้เราได้สูดดมอากาศที่บริสุทธิ์แล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟ ดีต่อสุขภาพของคนในบ้านอีกด้วย ดังนั้น หลังจากวางแอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว เราต้องคำนึงถึงการทำความสะอาด ซึ่งก็ไม่ควรให้ชิดเพดานหรือฝ้ามากเกินไป จะทำให้ถอดชิ้นส่วนออกมาล้างลำบาก และจะทำให้เพดานเกิดความชื้นได้ง่ายจนกลายเป็นเชื้อรา เป็นอันตรายต่อคนในบ้าน


นอกจากนี้ เฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ข้างใต้แอร์ ต้องสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย พอเวลาช่างมาล้างหรือเราทำความสะอาดเองจะได้ไม่เลอะเทอะสกปรก และอีกข้อหนึ่งที่เราควรจะใส่ใจคือ ตำแหน่งของแอร์ เราไม่ควรอยู่ตรงข้ามกับจุดนั่งหรือจุดนอน โดยตำแหน่งตรงกันข้าม หมายถึง ตำแหน่งที่ผู้อยู่อาศัยต้องใช้งานระยะยาว อาจเป็นการนั่งทำงานทั้งวัน นอนหลับพักผ่อนตลอดค่ำคืน เนื่องด้วยหากลมเย็นของแอร์กระทบกับร่างกายโดยตรงต่อเนื่องยาวนาน มักส่งผลให้ร่างกายเจ็บป่วย ผิวแห้ง ระคายเคืองตา เกิดอาการภูมิแพ้ได้ง่าย ตัวอย่างเช่น กรณีห้องนอนไม่ควรให้ตรงข้ามเตียงนอน

กรณีห้องทำงาน ไม่ควรตรงข้ามกับตำแหน่งโต๊ะทำงาน แต่หากเป็นตำแหน่งที่ใช้งานชั่วคราว เช่น โต๊ะอาหาร, มุมรับแขก หรือโซนอื่น ๆ ที่ใช้งานชั่วคราวจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตาม การวางตำแหน่งของคอมเพรสเซอร์ ก็มีความสำคัญ เราควรวางคอมเพรสเซอร์ในบริเวณที่ระบายความร้อนได้ดี เป็นที่โปร่ง ไม่มีสิ่งกีดขวาง

วางตัวเครื่องให้ห่างจากกำแพงออกมาเล็กน้อย ควรวางไว้ที่ระเบียงข้างนอก หากไม่มีระเบียงให้แขวนกับผนังด้านข้าง หรือหาพื้นที่แขวนที่โล่ง ลมจะได้ไม่ตีลมร้อนกลับมา นอกจากนี้ ควรวางบริเวณที่สามารถระบายความร้อนได้ดีและส่งเสียงรบกวนได้โดยไม่รบกวนสิ่งรอบข้าง ยกระดับให้เหนือพื้นดินอย่างต่ำ 10 เซนติเมตร หรือพ้นจากระดับที่น้ำสามารถท่วมถึง และอยู่ในบริเวณที่ซ่อมบำรุงได้ง่าย และสิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอร์บริเวณที่มีโอกาสติดไฟได้ เพราะน้ำยาแอร์บางชนิดสามารถติดไฟได้บ้างจึงควรเลี่ยงเอาไว้ก่อน จะเห็นได้ว่า เทคนิคของการใช้งานแอร์นั้น มีหลายปัจจัยที่จะต้องคำนึงถึง เพราะทุกอย่างล้วนมีความสัมพันธ์กัน ก็จะช่วยทำให้ประหยัดไฟ ยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น

ดังนั้น หากบ้านไหนอยากจะติดตั้งแอร์ หรือปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับการจัดการอาคาร ไม่ว่าจะเป็น ระบบทำความเย็น การทำความสะอาด หรืองานช่างต่างๆ สามารถติดต่อทาง เราได้ อยากให้ทุกคนได้อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ที่มีความสะอาด เพื่อช่วยให้เราได้มีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากเชื้อโรคและมีคุณภาพชีวิตที่ดี


ทางเรามีบริการทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะเพื่อให้ทุกคนได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สะอาดเพราะเราห่วงใยในความปลอดภัยของลูกค้า เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในทุกสภาพแวดล้อม ทั้งนี้ เรายังได้มีการคัดสรรสิ่งที่จะนำมาใช้ในการทำความสะอาด เพื่อให้เหมาะสมกับสถานที่นั้นๆมากที่สุด เพื่อให้ทุกคนได้ปลอดภัย และลดความเสี่ยงของการสัมผัสเชื้อโรคด้วย

15
หมอออนไลน์: ผมร่วงจากโรคอื่น ๆ

ผู้ป่วยที่เป็นโรคบางอย่าง เช่น เอสแอลอี ภาวะขาดไทรอยด์ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น ก็อาจมีอาการผมร่วง ผมบาง ร่วมกับอาการของโรคเหล่านี้ เช่น เป็นไข้เรื้อรัง ปวดตามข้อ มีผื่นปีกผีเสื้อขึ้นที่หน้า ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น

สาเหตุ

เกิดจากโรคที่ทำให้มีอาการผมร่วง ผมบาง เช่น เอสแอลอี ภาวะขาดไทรอยด์ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น


อาการ

มีอาการผมร่วง ผมบาง ร่วมกับอาการของโรคเหล่านี้ เช่น

    เอสแอลอี จะเป็นไข้เรื้อรัง ปวดตามข้อ มีผื่นปีกผีเสื้อขึ้นที่หน้า
    ภาวะขาดไทรอยด์ จะมีอาการอ่อนเพลีย เฉื่อยเนือย บวมฉุ   
    ต่อมน้ำเหลืองโต จะมีอาการต่อมน้ำเหลืองโต


ภาวะแทรกซ้อน

เกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคที่เป็นสาเหตุ


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและการตรวจพบลักษณะของโรคที่เป็นสาเหตุ รวมทั้งการตรวจพิเศษ เช่น การตรวจเลือด เอกซเรย์ เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ


การดูแลตนเอง

หากมีอาการผมร่วงและมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น เป็นไข้เรื้อรัง ปวดตามข้อ มีผื่นปีกผีเสื้อขึ้นที่หน้า ต่อมน้ำเหลืองโต บวมฉุ เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์ และดูแลรักษาตามคำแนะนำของแพทย์


การป้องกัน

เนื่องจากอาการผมร่วงเป็นอาการของโรคต่าง ๆ การป้องกันจึงต้องหาทางป้องกันไม่ให้เป็นโรคเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่ทำได้ยาก

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ผมร่วง ผมบาง จากสาเหตุอื่น ๆ

หน้า: [1] 2 3 ... 54
ลงประกาศฟรี โฆษณาฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถ สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทสินค้าฟรี เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google