แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 37
1
อาการของเด็ก เมื่อสวมใส่เครื่องมือจัดฟันเด็ก EF LINE ช่วงแรกๆ

เครื่องมือ EF Line เป็นเครื่องมือการจัดฟันสำหรับเด็กที่มีอายุ 4-7 ปี มีลักษณะเป็นชิ้นยางหลากหลายสี ซึ่งมีหลายขนาดตามอายุและขนาดของขากรรไกรเด็ก ซึ่งประโยชน์ของเครื่องมือชิ้นนี้ คือมันจะช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าของเด็กให้มาอยู่ถูกที่ถูกทาง มากยิ่งขึ้นโดยเครื่องมือการจัดฟันในการจัดฟันในเด็กนั้น จะช่วยป้องกันปัญหาการสบฟันผิดปกติหรือแก้ไขเพื่อบรรเทาความรุนแรงของความผิดปกติซึ่งควรทำในเด็ก เพราะเครื่องมือ EF Line ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องของป้องกันฟันล้ม ซึ่งใช้ในกรณีที่มีการสูญเสียฟัน หรือ ต้องถอนฟันน้ำนมก่อนกำหนด โดยทันตแพทย์จะถอนฟันน้ำนมที่เสียออก แล้วพิมพ์ปากเพื่อทำเครื่องมือกันฟันล้มใส่ให้ รอจนกว่าถึงเวลาที่ฟันแท้จะงอกขึ้นทดแทนในช่องว่างที่ถอนฟัน

สำหรับผู้เข้ารับการรักษาที่เป็นเด็กก็จะมีฟันแท้ งอกตรงในบริเวณที่ควรจะงอก ทำให้ไม่ก่อให้เกิดปัญหาฟันคุดของฟันแท้ในบริเวณนั้น หรือ การล้มเกของฟันรอบๆ ข้าง แต่ที่สำคัญที่สุด คือ การได้มีฟันน้ำนมอยู่ในปากจนครบเวลาที่ควรจะหลุด จะเป็นการป้องกันฟันล้มเกได้ดีที่สุด นอกจากนี้ เครื่องมือดังกล่าวยังสามารถแก้ไขพฤติกรรมที่ผิดปกติที่เกิดในเด็กได้ด้วย หากเรามานั่งพูดถึงสาเหตุของการสบฟันที่ผิดปกติในเด็กจำนวนมาก ที่เรามักพบเจอได้บ่อย ส่วนใหญ่จะเกิดจากนิสัยต่างๆ เช่น การดูดนิ้ว การกลืนที่ผิดปกติ หรือ การหายใจทางปากจากปัญหาทางเดินหายใจ อาจจะส่งผลให้ฟันหน้าบนยื่น หรือไม่สบฟันได้ในที่สุด

ทันตแพทย์จะมีเครื่องมือรูปแบบต่างๆ ที่ช่วยแก้ไขนิสัยเหล่านี้ให้แก่เด็กได้ แต่การสวมใส่เครื่องมือ EF LINE ในช่วงแรกๆของเด็กอาจจะยังมีอาการผิดปกตอเล็กน้อย ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะสังเกตพฤติกรรมเมื่อเด็กมีอาการเมื่อสวมใส่เครื่องมือ EF LINE พ่อแม่ที่กำลังจะให้เด็กเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยเครื่องมือ EF LINE อาจจะมีความสงสัยในเรื่องของการสวมใส่เครื่องมือ EF LINE ว่าเด็กจะมีอาการอะไรหรือเปล่า ดังนั้น พ่อแม่ควรที่จะสังเกตอาการที่ทางคลินิกของเรากำลังจะนำมาบอก เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้ศึกษาเป็นแนวทาง

 สำหรับเครื่องมือ EF line เด็กควรจะสวมใส่เครื่องมือตามที่ทันตแพทย์จัดฟันแนะนำ ก็คือ ควรสวมใส่ในตอนกลางคืนขณะนอนหลับเป็นเวลา 10 ชม. เวลา และในตอนกลางวันเป็นเวลา 2 ชม. ซึ่งในระหว่างใส่กลางวันพ่อแม่ต้องคอยสังเกตอาการของเด็ก ไม่ควรปล่อยให้เด็กเคี้ยวเครื่องมือเล่น ไม่พูด ปากปิดสนิทเพื่อเป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อรอบปาก ในช่วงเเรกๆ การสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันอาจไม่สบายนัก แต่ร่างกายของเด็กจะปรับตัวยอมรับและดีขึ้นเองเด็กบางคนอาจมีอาการเหมือนอยากจะอาเจียน

ดังนั้น พยายามให้เด็กใส่ให้เกิดความเคยชินขึ้น โดยอาจปรับเวลาเป็นการใส่ครั้งแรก ทำให้เด็กรู้สึกเพลินเพลินกับการทำกิจกรรมอื่นๆไปด้วยได้ พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรเตือนเด็กให้พยายามใส่ประคองด้วยฟ และนิ่งๆ ไม่เคี้ยวเล่น เมื่อเวลาผ่านไป ฟัน กระดูกเหงือก เนื้อเยื่อในปาก กล้ามเนื้อและลิ้นจะปรับตัวตาม EF LINE ได้เอง ปัญหาอาการระคายเคืองที่เกิดขึ้น ก็จะค่อยๆลดลงจนสามารถใส่ได้นานๆอย่างสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ อาการที่จะเกิดขึ้นได้ก็คือ เมื่อเด็กสวมใส่เครื่องมือ EF LINE แล้วรู้สึกมีอาการเจ็บที่ฟัน หากเป็นฟันแท้อาจเป็นผลจากการเคลื่อนของฟันเพื่อการเรียงตัวใหม่ที่ดี แต่หากอาการเจ็บมีความรุนแรงมาก

โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นฟันน้ำนม หากพบฟันมีลักษณะโยกมาก พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาเด็กไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจรักษา หากแรกๆ เด็กบ่นว่าใส่แล้วปวด สามารถให้เขาพักการสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันได้ เอาออกเป็นช่วงๆ เพื่อค่อยๆให้ช่องปากได้ปรับตัว ยิ่งนานวันจะสามารถใส่ได้นานตามกำหนด นอกจากนี้ ควรมีการให้เด็กฝึกกลืนน้ำลายโดยลิ้นไม่ดุนฟัน แต่ให้ลิ้นเเตะเพดาน อยู่ด้านหลังห่างหลังฟันหน้าบนในเด็กที่ใส่ช่วงแรกๆ อาจจะเจ็บโคนลิ้น ให้ดื่มน้ำมากๆ หากเป็นแผลใช้ยาทาแผลช่วยบรรเทาอาการ หรือใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของยาชาช่วย เมื่อเด็กสามารถปรับลักษณะการกลืนและจัดตำแหน่งลิ้นได้แล้ว อาการผิดปกติเหล่านั้นจะหายไปเอง

 หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านไหน สนใจให้บุตรหลานของท่าน เข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยโปรแกรม EF Line สามารถขอรับคำแนะนำและปรึกษากับทางทันตแพทย์ของทางคลีนิก ได้ เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านทันตกรรมในเด็ก มีประสบการณ์เรื่องของการจัดฟันในเด็กมาอย่างยาวนาน จึงเป็นเครื่องการันตีได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพฟันที่ดี และมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นเด็กที่มีสุขภาพฟันที่ดีได้อย่างแน่นอน เพราะเราอยากให้เด็กๆทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่เด็กจะสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข สามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ โดยไม่มีเรื่องของปัญหาช่องปากมาเป็นอุปสรรค ดังนั้น การที่เด็กมีฟันที่แข็งแรง ก็จะช่วยส่งเสริมเรื่องพัฒนาการของเด็กได้อย่างดีเลยทีเดียว

2
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: ภาวะระบายลมหายใจเกิน (Hyperventilation)

Hyperventilation (ภาวะระบายลมหายใจเกิน) เป็นภาวะที่ผู้ป่วยหายใจเร็วมากและลึกมากกว่าปกติ ทำให้เสียความสมดุลระหว่างการหายใจเข้าออกและการหายใจออก ซึ่งมักหายใจออกมากกว่าหายใจเข้า และทำให้ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว จึงเกิดการหดตัวของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะที่สมอง และมีการลดลงของระดับแคลเซียมในเลือดทำให้มีอาการต่าง ๆ ตามมา โดยก่อนที่จะมีอาการมักมีความเกี่ยวข้องกับภาวะวิตกกังวลหรือมีความกดดันทางจิตใจ และเป็นภาวะที่มักเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย

อย่างไรก็ตาม อาการจะเกิดเพียงครั้งคราว และมักไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต หากไม่ได้มีสาเหตุจากทางด้านร่างกายอื่น ๆ
อาการของภาวะระบายลมหายใจเกิน

อาการของ Hyperventilation มักจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณ 20-30 นาที และอาการต่าง ๆ เกิดจากปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดลดลง โดยอาจมีอาการดังต่อไปนี้

    หายใจหอบเร็ว
    รู้สึกหายใจลำบาก รู้สึกว่าหายใจเท่าไหร่ก็ไม่พอ หรือต้องนั่งลงเพื่อหายใจ
    หัวใจเต้นแรงและเร็วกว่าปกติ ใจสั่น
    มีปัญหาในการทรงตัว รู้สึกหวิว หน้ามืดหรือเวียนศีรษะ
    มีอาการเหน็บหรือชาที่มือ เท้า หรือรอบ ๆ ปาก
    เกร็ง มือจีบ
    แน่นหน้าอก แน่นท้อง มีอาการกดเจ็บหรือปวด
    รู้สึกกังวล กระวนกระวาย หรือตึงเครียด

อาการอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งพบได้น้อยและผู้ป่วยอาจไม่ทันสังเกตว่าเกี่ยวข้องกับ Hyperventilation โดยมีอาการ ได้แก่

    ปวดศีรษะ
    มีลมมาก เรอ ท้องอืด
    มีอาการกระตุก
    เหงื่อออก
    การมองเห็นเปลี่ยนแปลง เช่น มองเห็นไม่ชัด หรือเห็นเฉพาะด้านหน้า
    ไม่มีสมาธิหรือมีปัญหาเกี่ยวกับความจำ
    หมดสติชั่วคราว

สาเหตุของภาวะระบายลมหายใจเกิน

สาเหตุของ Hyperventilation ส่วนใหญ่จะเป็นผลมาจากความวิตกกังวล ความตกใจกลัว ความประหม่า หรือความเครียด และมักจะเกิดขึ้นกับโรคแพนิค โดยหากเกิดจากสาเหตุทางจิตใจหรืออารมณ์เป็นหลักอาจเรียกว่าโรคหอบจากอารมณ์ (Hyperventilation Syndrome)

นอกจากนี้ ยังเกิดจากโรคทางกายอื่น ๆ ที่พบบ่อย ได้แก่

    มีเลือดออก
    มีไข้สูง
    มีอาการเจ็บปวดรุนแรง
    มีอาการในระหว่างที่ตั้งครรภ์
    มีการติดเชื้อที่ปอด
    โรคหืด
    โรคถุงลมโป่งพอง
    โรคปอด เช่น โรคปอดอุดกันเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary disease: COPD)
    โรคหัวใจ
    ภาวะเป็นกรดในเลือดจากเบาหวาน (Diabetic Ketoacidosis)
    เกิดการบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะ
    ใช้สารกระตุ้น
    ใช้ยาเกินขนาด เช่น ยาแอสไพริน เป็นต้น
    เดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ที่มีความสูงมากกว่า 6,000 ฟุต


การวินิจฉัยภาวะระบายลมหายใจเกิน

การวินิจฉัย Hyperventilation นั้นแพทย์สามารถทราบได้ง่ายยิ่งขึ้น หากผู้ป่วยมีประวัติหรืออาการเบื้องต้นดังต่อไปนี้

    ก่อนเกิดอาการอาจพบว่า ผู้ป่วยมักมีปัญหากดดันจิตใจอย่างเห็นได้ชัด เช่น ทะเลาะกับคนใกล้ชิดหรือที่ทำงาน หรือมีปัญหาการเรียน ต้องสอบ
    มีอาการหายใจหอบหรือหายใจไม่ออกในขณะที่กำลังพักผ่อนอยู่เฉย ๆ
    มีอาการหายใจหอบหรือหายใจไม่ออก ร่วมกับรู้สึกหวิว และความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน (Paraesthesiae)
    มีอาการแย่เมื่อต้องออกแรงมาก
    เมื่อมีอาการทำให้รู้สึกมีความกลัวที่จะเสียชีวิต
    มีประวัติเป็นโรคแพนิคหรืออาการกลัวที่โล่ง
    เป็นโรคหืด
    สาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้การหายใจติดขัด เช่น ภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดที่กลับมาเป็นซ้ำ หรือภาวะโพรงเยื่อหุ้มปอดมีอากาศ
    เจ็บหน้าอก
    โรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม (Cervical Spondylosis) หรือเส้นประสาทถูกกดทับ
    เวียนศีรษะจากไมเกรน

อาการดังกล่าว อาจคล้ายคลึงกับอาการหอบจากสาเหตุทางกายหลายประการ เช่น โรคหืด (Asthma) โรคลมชัก ภาวะหัวใจขาดเลือด ภาวะเป็นกรดในเลือดจากเบาหวาน (Diabetic ketoacidosis) และอื่น ๆ ดังนั้น ผู้ป่วยจึงต้องได้รับการซักประวัติ การตรวจร่างกาย และส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการที่จำเป็น เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและการดูแลที่ถูกต้องตามสาเหตุต่อไป

การทดสอบเพื่อคัดแยกโรคหรือภาวะอื่น ๆ ได้แก่

    การตรวจวิเคราะห์ก๊าซในเลือด เพื่อตรวจสอบค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
    การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ช่วยคัดแยกโรค เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ
    การทดสอบการทำงานของปอดหรือการส่งผ่านของก๊าซในปอด ช่วยแยกแยะภาวะทางปอด เช่น โรคหืด หรือโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด
    ตรวจสารเคมีในร่างกาย
    การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (Electroencephalogram: EEG) อาจจำเป็นในกรณีที่เกิดภาวะ Hyperventilation ชนิดฉับพลัน เพื่อแยกจากโรคลมชัก


การรักษาภาวะระบายลมหายใจเกิน

การรักษา Hyperventilation มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกายและทำให้การหายใจช้าลง ซึ่งมีวิธีการรักษาดังนี้

วิธีการดูแลตนเองเบื้องต้น

    การหายใจทางปากโดยทำปากจู๋
    หายใจช้า ๆ ในถุงกระดาษหรืออุ้งมือ เพื่อควบคุมการหายใจ โดยหายใจเพียง 6-12 ครั้ง อย่างช้า ๆ และเป็นธรรมชาติ แต่หากเป็นโรค เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือมีประวัติภาวะหลอดเลือดขาและปอดอุดตัน โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด รวมไปถึงหากมีอาการหายใจเร็ว ซึ่งอยู่ในที่สูงประมาณ 6,000 ฟุต ขึ้นไป ห้ามหายใจในถุงกระดาษ
    พยายามหายใจเข้าไปในท้องแทนที่จะใช้หน้าอก
    เมื่อหายใจเข้าแล้วให้กลั้นหายใจเอาไว้ประมาณครั้งละ 10-15 วินาที

นอกจากนั้น อาจสลับมาใช้วิธีหายใจผ่านรูจมูกและปิดปากขณะที่หายใจ โดยปิดรูจมูกและหายใจสลับกันทีละข้าง ทำซ้ำจนกว่าการหายใจจะกลับมาสู่ภาวะปกติ

สำหรับบางคนอาจพบว่าการออกกำลังกายอย่างเดินเร็วหรือวิ่งเหยาะ ๆ โดยหายใจเข้าและออกผ่านจมูก สามารช่วยอาการ Hyperventilation ได้


การลดความเครียด

ผู้ป่วย Hyperventilation ที่มีสาเหตุมาจากความเครียดหรือความวิตกกังวล อาจต้องพบนักจิตวิทยาเพื่อช่วยให้ผู้เข้าใจและทราบวิธีรักษาภาวะนี้ ซึ่งการเรียนรู้ที่จะลดความเครียดและวิธีการหายใจที่ถูกต้องจะสามารถช่วยควบคุมภาวะดังกล่าวได้

การฝังเข็ม

การฝังเข็มเป็นการรักษาทางเลือกของแพทย์แผนจีน ซึ่งจะใช้เข็มฝังไปตามบริเวณร่างกายที่ต้องการรักษา และจากการศึกษาเบื้องต้นได้พบว่า การฝังเข็มมีส่วนช่วยลดความวิตกกังวลและลดความรุนแรงของ Hyperventilation ลงได้

นอกจากนั้น แพทย์จะให้ใช้ยารักษา โดยจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ซึ่งยาที่นำมาใช้รักษา Hyperventilation เช่น ยาอัลปราโซแลม (Alprazolam) ยาด็อกเซปิน (Doxepin) และยาพาร็อกซีทีน (Paroxetine) เป็นต้น

ภาวะแทรกซ้อนของ Hyperventilation ได้แก่

    ส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิต
    พบว่ามีนัยสำคัญ ที่ Hyperventilation จะมีความเกี่ยวข้องกับความผิดปกติหรือโรคทางจิตใจ
    ผู้ป่วยแต่ละรายจะมีความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการตรวจหรือการรักษาที่วินิจฉัยผิดพลาดโดยแพทย์
    มีรายงานที่พบว่ามีผู้เสียชีวิตจาก Hyperventilation แต่พบได้น้อยมาก


การป้องกันภาวะระบายลมหายใจเกิน

การป้องกันและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิด Hyperventilation ได้แก่

    พยายามหายใจทางจมูก เพราะภาวะดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ยากในขณะที่ปากกำลังปิดอยู่ และเมื่อหายใจทางจมูกก็จะทำให้อากาศเข้าและออกได้น้อยกว่า
    คลายเสื้อผ้าหรือเครื่องแต่งกายให้หลวม เช่น เข็มขัดที่รัดแน่น เสื้อชั้นใน หรือกางเกงรัดรูป เพราะจะทำให้หายใจลำบากหรือหายใจตื้น
    ศึกษาวิธีการหายใจด้วยท้อง และฝึกเวลาที่ไม่มีอาการ เมื่อเกิดอาการก็สามารถนำมาใช้ช่วยบรรเทาอาการได้ ซึ่งผู้ที่เป็น Hyperventilation มักจะมีอาการหายใจตื้นหรือหายใจเข้าเพียงช่วงอกส่วนบนเท่านั้น
    พยายามหาวิธีผ่อนคลายและจัดการกับความเครียด โดยเลือกวิธีที่เหมาะหรือได้ผลกับตนเอง
    พูดคุยปรึกษากับเพื่อน คนในครอบครัว หรือผู้ให้คำปรึกษา เพื่อช่วยลดความวิตกกังวล รวมไปถึงจดบันทึกประจำวันถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและหาทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ
    รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ลดการดื่มการแฟ ชาและโซดา และไม่ควรรับประทานช็อคโกแลตมากเกินไป
    ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เน้นการออกกำลังกายที่ช่วยในการหายใจ ซึ่งจะช่วยลดความวิตกกังวลที่อาจนำไปสู่ Hyperventilation
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะเมื่อพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยลดความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นในเวลากลางวันได้
    ฝึกการคิดบวกหรือมองโลกในแง่บวก


3
motor show: OMODA & JAECOO โชว์นวัตกรรมยานยนต์และหุ่นยนต์อัจฉริยะในงาน International Users Summit

OMODA & JAECOO จัดงาน International Users Summit ณ เมืองอู๋หู ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 17-21 ตุลาคมที่ผ่านมา ภายใต้แนวคิด User Co-Creation การร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมไปกับผู้ใช้ ซึ่งรวมพลเจ้าของรถและสื่อต่าง ๆ จากนานาประเทศ พร้อมตอกย้ำวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมแห่งอนาคต และความสำเร็จที่ผ่านมาของแบรนด์ โดยภายในงานมีกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยี การนำเสนอเทรนด์ใหม่ ๆ และการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่อย่าง Argos หุ่นยนต์สุนัขอัจฉริยะ พร้อมเปิดโอกาสให้เจ้าของรถ OMODA & JAECOO จากทั่วโลก ได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ผ่านกิจกรรมอินเทอร์แอคทีฟสุดล้ำ

ผลงานนักสร้างสรรค์ระดับโลกบนรถ OMODA 5

OMODA E5 หรือ OMODA C5 EV ในประเทศไทย หนึ่งในรถยนต์รุ่นเรือธงของ OMODA ได้จัดการประกวดแต่งรถเป็นครั้งแรก ผ่านการเชิญชวนเหล่าผู้เจ้าของรถจริงมาโชว์ไอเดียการปรับโฉมรถสุดสร้างสรรค์ การประกวดครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้ขับขี่ทั่วโลกกว่า 10 ประเทศ ด้วยดีไซน์อันล้ำสมัยและศักยภาพในการปรับแต่งที่ไร้ขีดจำกัดของ OMODA C5 EV ทำให้เกิดผลงานการสร้างสรรค์ที่หลากหลายน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมสร้างสรรค์กว่า 200 คัน และบางส่วนได้รับเลือกให้มาจัดแสดงที่งานแห่งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ของผู้ขับขี่ทั่วโลก ที่สอดคล้องไปกับแนวคิด User Co-Creation การร่วมสร้างสรรค์ระหว่างแบรนด์และผู้ขับขี่ OMODA นั่นเอง นอกจากนี้ทาง JAECOO ยังได้นำเสนอการแต่งรถ JAECOO 6 EV และ JAECOO 7 PHEV ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่รักการผจญภัย ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและเหมาะสำหรับการขับขี่ออฟโรดที่ไม่ซ้ำใคร การจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงแต่จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ของผู้ขับขี่เท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ OMODA & JAECOO ในการเป็นผู้นำเทรนด์การปรับแต่งรถระดับโลก

พร้อมส่งมอบประสบการณ์ของผู้ขับขี่แห่งอนาคต

 งาน International Users Summit ครั้งนี้ OMODA & JAECOO ได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษมากมายในรูปแบบเทคโนโลยี Immersive ตอกย้ำแนวคิดและวิสัยทัศน์ของแบรนด์สู่อนาคตที่ยั่งยืนของมนุษย์ ผ่านโซนกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ โซน User Eco Carnival ขนทับจัดแสดงนวัตกรรมในรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟด้วยบรรยากาศแห่งอนาคตอันล้ำสมัย โซน User Co-Creation Display Area จัดแสดงผลงานการปรับแต่งรถสุดสร้างสรรค์ จากไอเดียการออกแบบใหม่ ๆ จากผู้ขับขี่ทั่วโลก และโซน On-Site Retail Zone จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ให้ผู้เข้าร่วมได้เลือกซื้อมากมาย

ความอัจฉริยะของนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของ International Users Summit 2024 ครั้งนี้ คือการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ Argos หุ่นยนต์สุนัขไบโอนิกส์รุ่นที่ 2 และ Mornine หุ่นยนต์มนุษย์โต้ตอบขั้นสูงจากบริษัทพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่าง AiMOGA โดย Mornine สามารถช่วยบริการในศูนย์บริการได้อย่างครบวงจร ลดช่องว่าง เพิ่มความใกล้ชิดระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ ด้วยการให้ Mornine สามารถทักทายลูกค้า วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า นำเสนอตัวเลือกรถที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล พาชมรถ แนะนำฟังก์ชันรถ ไปจนถึงการตอบคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับรถให้แก่ลูกค้า

ในขณะที่ Argos หุ่นยนต์สุนัขไบโอนิกส์รุ่นที่ 2 ก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากภายในงานเช่นกัน ด้วยดีไซน์น่ารักสดใสที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การจดจำเสียงสั่งการ การติดตามเจ้าของ และการทำท่าเลียนแบบสุนัข Argos ยังตั้งเป้าเป็นผู้ช่วยเหลือแก่เด็กออทิสติกและผู้พิการได้อีกด้วย นอกจากนี้ หุ่นยนต์สุนัขไบโอนิกส์ Argos ยังสามารถรับบทผู้ช่วยเพิ่มความสนุกสนานในชีวิตประจำวัน สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ OMODA & JAECOO ในการสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด

สัมผัสยานยนต์แห่งอนาคต ตอบสนองไลฟ์ไสตล์ทุกมิติ
ภายในงานมีการจัดแสดงรถหลากหลายรุ่นจาก OMODA & JAECOO ไม่ว่าจะเป็น OMODA C5 EV รถครอสโอเวอร์ พลังงานไฟฟ้า 100% ในคอนเซ็ปต์ Light of Movement อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยครบครันฟังก์ชันและความปลอดภัย โฉบเฉี่ยวทั้งภายนอกและภายใน สะท้อนตัวตนผู้ขับขี่รุ่นใหม่ที่มีสไตล์ไม่ซ้ำใคร

JAECOO 6 EV รถออฟโรดพรีเมียมพลังงานไฟฟ้า 100% ตัวถังผลิตจากอะลูมิเนียม พร้อมด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟต ระยะยื่นหน้าและหลังที่สั้นทำให้การขับขี่แบบออฟโรดมีความคล่องตัวสูงไฟหน้าแบบ Headlamp Matrix Adaptive ส่องได้กว้างและไกลกว่า และโหมดการขับขี่ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและการขับขี่แบบสมบุกสมบัน

JAECOO 7 PHEV รถยนต์ออฟโรดพลังปลั๊กอินไฮบริด ระดับไฮเอนด์สมรรถนะสูง ผสานความคลาสสิคของรถยนต์ออฟโรดเข้ากับเทคโนโลยียานยนต์ฉัจฉริยะอย่างลงตัว พร้อมดีไซน์กระจังหน้าอันโดดเด่นไม่ซ้ำใคร และยังมีการจัดแสดง OMODA C5, OMODA C7, JAECOO 5, และ JAECOO 8 PHEV อีกด้วย

สำหรับลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถ OMODA C5 EV และ JAECOO 6 EV ในประเทศไทยสามารถติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่ OMODA & JAECOO Facebook เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆอย่าง International User Summit ในปี 2568

4
สาเหตุของโรคความดันสูง (Hypertension)

สาเหตุของโรคความดันสูงสามารถแบ่งตามสาเหตุการเกิดได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ได้แก่

ชนิดที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด (Primary/Essential Hypertension)
โรคความดันสูงชนิดนี้มักเกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่เป็นส่วนใหญ่ โดยมีการพัฒนาของโรคอย่างค่อยเป็นค่อยไป และยังไม่สามารถระบุต้นเหตุที่ทำให้เกิดได้อย่างชัดเจน

ชนิดที่ทราบสาเหตุ (Secondary Hypertension)
โรคความดันสูงชนิดนี้มักเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันมากกว่าชนิดแรก โดยเป็นผลมาจากโรคประจำตัวเดิม เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคไต ปัญหาต่อมไทรอยด์ เนื้องอกที่ต่อมหมวกไต โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดผิดปกติแต่กำเนิด

รวมไปถึงการตั้งครรภ์ การใช้สารเสพติดอย่างโคเคนหรือแอมเฟตามีน การติดแอลกอฮอล์และการติดสุราเรื้อรัง และการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาลดน้ำมูก ยาลดไข้ และยาแก้ปวด

นอกจากนี้ ยังพบปัจจัยอื่นที่มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคความดันสูง ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคได้มากขึ้น

    อายุ อายุที่เพิ่มมากขึ้นจะยิ่งทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคความดันสูงมากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะช่วงวัยกลางคนถึงวัยสูงอายุ ประมาณ 45–60 ปีขึ้นไป
    เชื้อชาติ มักพบในคนเชื้อชาติฝั่งประเทศตะวันตกมากกว่าเอเชีย
    เพศ มักพบในเพศชายวัยกลางคนอายุประมาณ 45 ปีขึ้นไป ขณะที่เพศหญิงจะพบมากในช่วงอายุ 60–65 ปีขึ้นไป
    พันธุกรรม ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคความดันสูงมีโอกาสเป็นโรคได้สูงกว่าผู้ที่ไม่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้
    อาหารโซเดียมสูงหรือโพแทสเซียมต่ำ การรับประทานอาหารมีโซเดียมสูงจะยิ่งทำให้ร่างกายเกิดภาวะบวมน้ำ ซึ่งจะไปเพิ่มความดันโลหิตในร่างกายให้สูงขึ้น ส่วนอาหารที่มีโพแทสเซียมน้อยจะทำให้ร่างกายไม่สามารถจัดการกับปริมาณโซเดียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    เป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักเกินจะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากระบบหมุนเวียนเลือดต้องขนส่งออกซิเจนและสารอาหารไปให้เนื้อเยื่อภายในร่างกายมากขึ้น หัวใจต้องใช้แรงดันในการส่งเลือดมากขึ้นเช่นกัน
    สูบบุหรี่หรือยาสูบ สารพิษที่อยู่ในบุหรี่และยาสูบเหล่านี้จะเพิ่มความดันโลหิตในร่างกายให้สูงขึ้น ทำให้ผนังหลอดเลือดแดงเกิดการตีบตัน และหัวใจต้องใช้แรงดันในการส่งเลือดเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับสารเหล่านี้จากควันบุหรี่ก็ได้รับผลเสียเช่นเดียวกับผู้ที่สูบ
    ขาดการออกกำลังกายและเคลื่อนไหวร่างกายน้อย ทำให้อัตราการเต้นหัวใจเพิ่มมากขึ้น และยิ่งทำให้หัวใจต้องใช้แรงดันเพิ่มมากขึ้น
    เป็นโรคเรื้อรังบางชนิด โรคประจำตัวบางชนิดอาจส่งผลต่อความดันโลหิตที่สูงมากขึ้น เช่น โรคไต โรคเบาหวาน หรือมีปัญหาด้านการนอน
    ความเครียดสะสม
    การดื่มแอลกอฮอล์เกินพอดี
    การได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอ


5
บ้านใหม่ 2024: แกรนด์ พลีโน่ แจ้งวัฒนะ - ราชพฤกษ์ (Grande Pleno Chaengwattana - Ratchapruek)
เริ่มต้น 6.09 ลบ. 

แกรนด์ พลีโน่ แจ้งวัฒนะ - ราชพฤกษ์ (Grande Pleno Chaengwattana - Ratchapruek)
แกรนด์ พลีโน่ แจ้งวัฒนะ - ราชพฤกษ์ บ้านแฝดโครงการใหม่จาก เอพี ไทยแลนด์ บ้านแฝด The Grandiose Living ที่เติมเต็มชีวิต ยกระดับการอยู่อาศัย มาพร้อมกับพื้นที่ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ให้ลูกบ้านได้อยู่อาศัยไปกับธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ บนทำเลศักยภาพเชื่อมต่อ "แจ้งวัฒนะ" เพียง 5 นาที*

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ              แกรนด์ พลีโน่ แจ้งวัฒนะ - ราชพฤกษ์ (Grande Pleno Chaengwattana - Ratchapruek)
 เจ้าของโครงการ         เอพี (ไทยแลนด์)
 แบรนด์ย่อย              แกรนด์ พลีโน่
 ราคา                      เริ่มต้น 6.09 ลบ.

 ประเภทบ้าน            บ้านแฝด
 ลักษณะทำเล           บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ          33 ไร่ 2 งาน 6 ตร.ว.
 จำนวนบ้าน             198 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด        2 แบบ
  เนื้อที่บ้าน              ตั้งแต่ 35.25 ถึง 44.6 ตร.ว.
 พื้นที่ใช้สอย            ตั้งแต่ 143 ถึง 169 ตร.ม.
 จำนวนชั้น                2 ชั้น
 หน้ากว้าง               โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน        ตั้งแต่ 3 ถึง 4 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ        ตั้งแแต่ 2 ถึง 3 คัน
 สาธารณูปโภค          สวนสาธารณะ, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน       นนทบุรี, บางบัวทอง, บางใหญ่, ปากเกร็ด
 ที่ตั้ง       ถนนหอการค้า ตำบลบางตะไนย์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

 ขนส่งสาธารณะ
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีชมพู, สถานี(แคราย - มีนบุรี)(ปากเกร็ด)
ใกล้ทางด่วน (ทางพิเศษอุดรรัถยา, ทางด่วนศรีสมาน, ทางด่วนศรีรัช)
ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนหอการค้าไทย, ถนนชัยพฤกษ์, ถนนราชพฤกษ์)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ศูนย์การค้า
1. Robinson Lifestyle ราชพฤกษ์
2. Central แจ้งวัฒนะ
3. The Crystal PTT
4. HomePro ชัยพฤกษ์
5. Index Living Mall ชัยพฤกษ์

สถานศึกษา
1. โรงเรียนนานาชาติ SISB
2. โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นนทบุรี
3. โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์

สถานพยาบาล
1. โรงพยาบาลปากเกร็ด 2
2. โรงพยาบาลกรุงไทย ปทุม
3. โรงพยาบาลวิภารามปากเกร็ด
4. โรงพยาบาลกรุงไทย

6
บริการด้านอาหาร: กินอย่างไร เมื่อให้เคมีบำบัด

ในเรื่องของการรับประทานอาหาร ถือว่ามีความสำคัญสำหรับทุกคน เพราะสุขภาพร่างกายที่ดีนั้น เริ่มได้จากการรับประทานอาหาร เนื่องจากร่างกายของเรานั้น จำเป็นที่จะต้องได้รับสารอาหารที่ประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อที่จะได้ไปหล่อเลี้ยงและบำรุงร่างกาย เพื่อสร้างพลังงานในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ในทางกลับกัน บางคนมีสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงหรือมีโรคประจำตัว ไม่ว่าจะเกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน หรือพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะคนที่ป่วยเป็นโรคประจำตัวหรือมีโรคร้ายอย่าง มะเร็ง ซึ่งจำเป็นอย่างมากที่ต้องได้รับการดูแลในเรื่องของอาหารการกินให้มากเป็นพิเศษ


เพราะถ้าหากป่วยเป็นมะเร็งแล้ว และต้องรักษาด้วยเคมีบำบัด การรับประทานอาหารถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด เพราะบางรายเมื่อต้องให้เคมีบำบัด อาจจะได้รับผลข้างเคียงเช่น ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ เพราะอาจจะมีภาวะเบื่ออาหาร หลังจากให้ยาเคมี ประกอบกับร่างกายที่ไม่แข็งแรง ถ้าหากไม่ได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือมีร่างกายที่อ่อนแอไปด้วย ก็จะยิ่งทำให้ร่างกาย ภูมิคุ้มกันยิ่งอ่อนแอลงไปอีก ดังนั้น วันนี้ทางเราจะมาพูดถึงเรื่องของอาหารการกินของผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องให้ยาเคมีบำบัด เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ป่วยหลายคนที่กำลังให้ยาเคมีบำบัดได้รับประทานอาหารได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

สำหรับเคล็ดลับการรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งทั้งก่อนหรือระหว่างและหลังการรักษา อาหารเป็นหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในขั้นตอนการรักษา เพราะการรับประทานอาหารที่ถูกต้อง ช่วงก่อน ระหว่าง และหลังการรักษา จะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกดี และแข็งแรงมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงก่อนการรักษาเมื่อโรคมะเร็งถูกวินิจฉัย การรักษาโรคอาจประกอบด้วย การผ่าตัด การฉายแสง (รังสีรักษา) เคมีบำบัด การใช้ฮอร์โมนรักษา และการใช้หลายวิธีร่วมรักษาการรักษาโรคมะเร็งจะมีเป้าหมายเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง แต่อย่างไรก็ตามเซลล์ที่ปกติอาจถูกทำลายบางส่วนทำให้เกิดอาการ เบื่ออาหาร น้ำหนักเพิ่มหรือลด เจ็บปากและคอ มีอาการปากแห้ง หรือการรับรสชาด และรับกลิ่นเปลี่ยนไป มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย อ่อนเพลีย หรือซึมเศร้า จะสังเกตได้ว่า อาการข้างเคียงหลังจากให้ยาเคมีบำบัด ส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบต่อการรับประทานอาหาร


ดังนั้น การที่ผู้ป่วยไม่ได้รับอาหารที่เพียงพอ อาจจะทำให้ร่างกายอ่อนแอมากว่าเดิม จึงจำเป็นที่ต้องได้รับอาหารที่มีประโยชน์ แต่อย่างไรก็ตามการรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ก็จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้เร็วขึ้น อาหารที่มีรสชาติอ่อนๆ ย่อยง่าย และอุดมไปด้วยสารอาหารจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในช่วงทำเคมีบำบัด ได้แก่ อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีไขมันดี ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล LDL และช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอล HDL อีกด้วย ที่สำคัญอะโวคาโดยังให้พลังงานแคลอรี่ที่สูง และช่วยให้รู้สึกอิ่มได้ง่าย จึงเหมาะกับผู้ที่เบื่ออาหาร ต่อมาคือ ไข่ ซึ่งหารับประทานได้ง่าย อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมัน จะช่วยเป็นพลังงานให้กับร่างกาย ส่วนโปรตีนจะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ ซึ่งทั้งสองอย่างเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นอย่างมากในช่วงทำเคมีบำบัด นอกจากนี้ ไข่ ยังสามารถนำมาปรุงเป็นอาหารอ่อน ๆ เคี้ยวและรับประทานได้ง่าย จึงเหมาะกับผู้ป่วยที่มีอาการอ่อนเพลีย


นอกจากนี้ ในช่วงที่ทำเคมีบำบัดการรับรู้รสชาติจะมีการเปลี่ยนแปลงไป แม้กระทั่งรสชาติของน้ำเปล่า จึงทำให้ผู้ป่วยดื่มน้ำได้น้อย อาหารประเภทน้ำซุป จึงเป็นทางเลือกที่ดี ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยได้ดื่มน้ำที่มากขึ้น ไม่ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ เนื่องจากการที่น้ำซุปเกิดจากการตุ๋นผักและเนื้อต่าง ๆ เข้าด้วยกัน จึงทำให้น้ำซุปมีรสชาติ แถมยังอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายที่ร่างกายต้องการ


นอกจากนี้แล้วด้วยความที่น้ำซุปจัดเป็นอาหารเหลว ผู้ป่วยจึงสามารถรับประทานได้ง่ายขึ้น สำหรับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ อย่างปลา ซึ่งเป็นเนื้อสัตว์ที่รับประทานได้ง่าย แถมยังมีโปรตีน และกรดไขมัน โอเมก้า 3 มาก ซึ่งมันจะช่วยบำรุงสมองและต้านอาการอักเสบ รวมไปถึงการรับประทานปลาที่มีไขมันมากยังช่วยให้น้ำหนักไม่ลดลงไปมาก เพราะได้รับไขมันดีจากปลา ชนิดปลาที่ให้ปริมาณไขมันโอเมก้า 3 มาก เช่น แซลมอน ทูน่า ซาร์ดีน เป็นต้น ทั้งหมดนี้คือ อาหารที่ผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องได้รับยาเคมีบำบัดควรที่จะรับประทานให้ร่างกายได้ฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว


อย่างไรก็ตาม การรับประทานที่มประโยชน์ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อผู้ป่วย ดังนั้น ทางเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี โดยการหันมาดูแลตัวเอง โดยเริ่มจากการรับประทานอาหาร ซึ่งทางเราได้เน้นย้ำมาตลอดให้ทุกคนใส่ใจในเรื่องอาหารการกิน และที่สำคัญควรจะหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง สร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง เราก็จะมีสุขภาพที่ดีได้ไม่ยาก

7
ถ้าเด็กไม่ชินกับเครื่องมือจัดฟันเด็ก EF LINE ควรทำอย่างไร

การรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เด็กควรที่จะแปรงฟันให้ถูกวิธีและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือพ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะใส่ใจในเรื่องของโภชนาการของเด็กด้วย เพื่อที่ให้เด็กได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสุขภาพตามมา นอกจากนี้ พฤติกรรมที่มีความผิดปกติของเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่สอดส่องดูแลเพื่อให้เด็กได้ลดพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการดูดนิ้ว พฤติกรรมการดูดขวดนม ซึ่งแน่นอนว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นเรื่องปกติของเด็กในวัยนี้

แต่ถ้าหากเด็กยังไม่เลิกพฤติกรรมดังกล่าวอาจทำให้ส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กได้ ซึ่งถ้าหากเกิดปัญหาเกี่ยวกับฟันการสบฟันที่ผิดปกติหรือกล้ามเนื้อโครงสร้างบริเวณใบหน้าทำงานผิดปกติ เด็กก็ต้องเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็กโดยใช้เครื่องมือ EF LINE ซึ่งในปัจจุบัน ทางทันตกรรมได้พบว่ากล้ามเนื้อใบหน้าและลิ้นมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ขนาด และการทำงานของกระดูกขากรรไกรและใบหน้า

ดังนั้น จึงมีการออกแบบเครื่องมือเพื่อทำการปรับแก้ไขปัญหาของกล้ามเนื้อซึ่งต้องร่วมกับการฝึกโดยการออกกำลังกล้ามเนื้อ การปรับเปลี่ยนการหายใจให้ถูกวิธี รวมถึงการใช้เครื่องมือเพื่อช่วยปรับการกลืนให้ถูกต้อง โดยเครื่องมือดังกล่าวเรียกว่า EF line โดยสามารถใช้ได้ในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 4 -15 ปี โดยเครื่องมือในกลุ่มนี้มีความหลากหลายในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน เช่น ปัญหารูปหน้าที่มีคางหลุบ ค้างเบี้ยวกระดูกและฟันบนยื่น และกรณีที่เด็กมีรูปหน้าสั้นซึ่งต้องการเพิ่มความสูงใบหน้า ซึ่งสามารถแก้ไขได้ แต่เด็กที่ได้ผ่านการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก หรือกำลังเริ่มที่จะเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยเครื่องมือ EF LINE พ่อแม่หลายคนกังวลว่า การสวมใส่เครื่องมือ EF LINE ของเด็กนั้น จะส่งอันตรายต่อเด็กหรือไม่ วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงวิธีการแก้ไขปัญหาสำหรับเด็กที่มีอาการผิดปกติหรืออาจจะยังไม่ชินกับเครื่องมือ EF LINE ว่า พ่อแม่ควรจะรับมืออย่างไร

สำหรับเครื่องมือ EF line เป็นชุดเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุ ดังนั้น ตามหลักการแล้วหากต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าจึงต้องทำการเริ่มแก้ไขในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต โดยเด็กจะต้องสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันตามที่ทันตแพทย์แนะนำ หรือใส่ คือ ตอนกลางคืนเวลานอนหลับ 10 ชม. เวลากลางวัน 2 ชั่วโมง

ซึ่งในระหว่างใส่กลางวัน โดยพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องคอยสังเกตพฤติกรรมอยู่ตลอด เวลาที่เด็กใส่เครื่องมือ EF LINE โดยควรให้เด็กใส่เครื่องมืออยู่นิ่งๆ ไม่เคี้ยวเล่น ไม่พูด ปากปิดสนิทเพื่อเป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อรอบปาก ให้เด็กดื่มน้ำมากเพิ่มความชุ่มชื้นในช่องปากของเด็ก หากมีอาการระคายเคืองบางตำเเหน่ง ใช้ยาทาเเผลในปาก โดยทาตรงบริเวณที่เจ็บเพื่อบรรเทาอาการได้ อย่างไรก็ตาม การสวมใส่เครื่องมือ EF LINE วันเเรกๆของการใส่อาจไม่สบายนัก แต่ร่างกายจะปรับตัวยอมรับและดีขึ้นเอง

ซึ่งแรกๆเด็กบางคนอาจมีทำท่าทางเหมือนอยากจะอาเจียน แต่พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรพยายามให้เด็กใส่ให้เกิดความเคยชินขึ้น โดยอาจปรับเวลาเป็นการใส่ครั้งแรก อาจใส่ครึ่งชั่วโมงเพื่อการปรับตัวแล้วพัก และใส่ต่อ โดยค่อยๆเพิ่มเวลา เมื่อเวลาผ่านไป เด็กจะสามารถสวมใส่เครื่องมือ EF LINE ได้นานขึ้น และเพลินเพลินกับการทำกิจกรรมอื่นๆไปด้วยได้ เช่น นั่งใส่ดูการ์ตูน อ่านหนังสือ และอื่นๆโดยไม่เผลอเคี้ยวหรือกัดเล่นเพราะเด็กบางคนอาจเผลอเคี้ยวเล่นหรือพยายามกัดและขยับให้พอดี

เเต่อาจเป็นผลทำให้เครื่องมือ EF LINE ขาดได้ ทางที่ดีเมื่อใส่ EF LINE ก็ควรจะปรับ EF LINE ให้ตรงและเตือนเด็กให้พยายามใส่ประคองด้วยฟัน และนิ่งๆไว้ไม่เคี้ยวเล่น เมื่อเวลาผ่านไป ฟัน กระดูกเหงือก เนื้อเยื่อในปาก กล้ามเนื้อและลิ้นจะปรับตัวตามเครื่องมือ ปัญหาอาการระคายเคืองต่างๆจะค่อยๆลดลงจนสามารถใส่ได้นานๆอย่างสบาย ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองมีส่วนที่จะช่วยทำให้เด็กเกิดความเคยชินในการใส่เครื่องมือได้

 หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านไหน สนใจให้บุตรหลานของท่าน เข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยโปรแกรม EF Line สามารถขอรับคำแนะนำและปรึกษากับทางทันตแพทย์ของทางคลินิกได้ เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็กและมีประสบการณ์ด้านทันตกรรมในเด็กมาอย่างยาวนาน จึงเป็นการการันตีได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพฟันที่ดี และมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม มีรอยยิ้มที่สดใสสมวัย เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นเด็กที่มีสุขภาพฟันที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

8
ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ


9
สถานที่ไหว้แก้ปีชง 2567 เที่ยววัด ปัดเป่าเคราะห์ร้าย เสริมบุญบารมี เพิ่มสิริมงคล

ปีชง เป็นความเชื่อทางโหราศาสตร์ของชาวจีน ที่เกี่ยวข้องกับเทพไท้ส่วยเอี้ย หรือรู้จักกันในนาม เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตาของคนเรา นั่นเอง ซึ่งคำว่า ชง ในภาษาจีน แปลว่า ปะทะ ดังนั้น ปีชง จึงหมายถึงปีที่ต้องปะทะกับเรื่องราวต่าง ๆ เช่น การงาน การเรียน ชีวิต คู่ครอง เงินทอง และสุขภาพ โดยในแต่ละปีก็จะมีปีนักษัตรที่ชงตรงและชงร่วมแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับดวงชะตาของแต่ละคน ซึ่งอาจจะส่งผลกับชีวิตไม่เหมือนกัน และ ปีชง 2567 ชงตรงกับปีจอ และชงร่วมกับปีมะโรง ปีมะแม และปีฉลู

          ทั้งนี้ แม้จะเป็นปีชงก็สามารถทำพิธีแก้ชงเพื่อบรรเทาเคราะห์กรรม ปัดเป่าเรื่องราวไม่ดี หรือคลายผลกระทบต่าง ๆ ให้เบาบางลงได้ ซึ่งเราสามารถหาวัดแก้ปีชงหรือสถานที่เพื่อทำพิธีแก้ชงได้ทั่วไป ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเลย ส่วนจะมีที่ไหนบ้าง เรามีตัวอย่างมาฝากกัน

1. ศาลเจ้าพ่อม้าและเจ้าพ่อกวนอู
           ศาลเจ้ากวนอูและเทพเจ้าม้า เป็นศาลเจ้าที่อยู่คู่กับตลาดเก่าแก่ของเยาวราชมานานนับ 100 ปี ภายในศาลเจ้าแห่งนี้ นอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้ากวนอู เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์แล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าม้า ที่เชื่อกันว่าเป็นม้าเซ็กเธาว์ สัตว์ประจำกายของเทพเจ้ากวนอูด้วย นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คนนิยมมาไหว้แก้ชง รวมถึงมากราบไหว้ขอพรเกี่ยวกับหน้าที่การงาน ให้ได้เป็นเจ้าคนนายคน มีลูกน้องบริวารที่ดี

ชาวจีนได้ยกย่องเทพเจ้ากวนอูให้เป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม ด้วยเพราะเกียรติยศ ความซื่อสัตย์ และคุณธรรม เทพเจ้ากวนอูได้รับการนับถือจากชาวจีนมาหลายศตวรรษ และศาลเจ้ากวนอูมีกระจายอยู่ทั่วโลก ชาวจีนนิยมไหว้เทพเจ้ากวนอูเพื่อขอพรให้ประสบความสำเร็จในด้านการงาน การเงิน และชีวิตครอบครัว พระองค์เป็นบุคคลที่มีคุณธรรมสูงส่ง เป็นผู้มีความซื่อสัตย์ กตัญญู กล้าหาญ และเสียสละ เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับชาวจีนและชาวโลก เทพเจ้ากวนอูถือเป็น 1 ใน 78 เทพของไพ่ทำนายโชคชะตา เทวะมันตรา พยากรณ์ ซึ่งเป็นไพ่เทพโบราณที่ได้รับการนับถือจากผู้คนทั่วโลก ไพ่เทวะมันตรา พยากรณ์ใช้ในการทำนายโชคชะตาราศี และเปิดโลกพลังพิเศษแห่งดวงตาที่สาม ให้รับรู้โดยสัญชาตญาณ และตั้งจิตอธิษฐานเพื่อปลดล็อกความรู้สึกภายใน เปิดรับสิ่งดี ๆ จากนี้เป็นต้นไป

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.
    ที่อยู่ : 189, 385 ซอยเยาวราช 11 (ซอยอิสรานุภาพ) แขวงจักรวรรดิ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
    พิกัด : ศาลเจ้าพ่อม้าและเจ้าพ่อกวนอู

2. ศาลเจ้าไต้ฮงกง
          หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นศาลเจ้าที่ประดิษฐานรูปจำลองของหลวงปู่ไต้ฮง ภิกษุที่เป็นผู้ริเริ่มการจัดฌาปนกิจศพไร้ญาติ จนเป็นที่มาของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาจนถึงปัจจุบัน ผู้คนทั้งชาวจีนและชาวไทยนิยมมากราบไหว้ขอพรกับศาลเจ้าแห่งนี้ในเรื่องโชคลาภ สุขภาพ และความสำเร็จในหน้าที่การงาน นอกจากนี้ก็ยังสามารถมาทำบุญแก้ชง สะเดาะเคราะห์เพื่อปัดเป่าโชคร้ายได้อีกด้วย โดยทางศาลเจ้าจะมีบริการธูปเทียนไว้ให้ สำหรับใครที่มีจิตศรัทธาอยากจะทำบุญบริจาคเพื่องานกุศลต่าง ๆ ก็สามารถหยอดตู้ทำบุญได้ตามกำลังศรัทธาเลย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.
    ที่อยู่ : 326 ถนนพลับพลาไชย แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
    พิกัด : ศาลเจ้าไต้ฮงกง
    เฟซบุ๊ก : มูลนิธิ ป่อเต็กตึ๊ง / POH TECK TUNG FOUNDATION

3. วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
          วัดไทยวัดเดียวในย่านเยาวราช เดิมชื่อว่า วัดสามจีนใต้ เนื่องจากมีชาวจีน 3 คนช่วยกันก่อสร้างวัดนี้ขึ้นมาจึงเป็นที่รู้จักกันในนามว่า วัดสามจีน เป็นวัดที่ชาวจีนและชาวไทยนิยมมากราบไหว้พระสุโขทัยไตรมิตร หรือหลวงพ่อทองคำ ซึ่งเป็นพระพุทธทองคำบริสุทธิ์ ปางมารวิชัย ที่ได้รับการบันทึกกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ 99.9% ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยเน้นขอพรในเรื่องการเรียน การงาน การเงิน และสุขภาพ เพื่อให้ชีวิตประสบแต่ความสุขความเจริญ ถือว่าเป็นการช่วยเสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิตในอีกทางหนึ่ง

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
    ที่อยู่ : 661 ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
    พิกัด : วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
    เฟซบุ๊ก : วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร Wat Traimit-Golden Buddha

4. ศาลเจ้าแม่กวนอิม มูลนิธิเทียนฟ้า
          ไม่ไกลจากวัดไตรมิตรวิทยารามนัก จะมีศาลเจ้าแม่กวนอิม มูลนิธิเทียนฟ้า ซึ่งภายในจะมีรูปเคารพของเจ้าแม่กวนอิมพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปางประทานพร ประดิษฐานเป็นองค์ประธาน ให้ผู้คนได้มากราบไหว้ขอพรให้ปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ ให้มีสุขภาพแข็งแรง

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.
    ที่อยู่ : 606 ถนนเยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
    พิกัด : ศาลเจ้าแม่กวนอิม มูลนิธิเทียนฟ้า

5. วัดหัวลำโพง
          แม้วัดหัวลำโพงจะไม่ใช่สถานที่แก้ชงโดยเฉพาะ แต่ก็เป็นวัดที่ผู้คนนิยมไปกราบไหว้ขอพรกับเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย ให้ช่วยเสริมดวง พบเจอแต่เรื่องดี ปัดเป่าเคราะห์ร้าย โดยในวัดจะมีให้ร่วมทำบุญหลายรูปแบบทั้งนมัสการพระประธานในโบสถ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิต พร้อมกับทำทาน ด้วยการทำบุญโลงให้ศพไร้ญาติร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญู รวมทั้งเติมน้ำมันตะเกียงช่วยสะเดาะเคราะห์และชี้ทางสว่างให้อนาคตสดใสยิ่งกว่าที่เคย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. (ทำบุญโลงศพ สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง)
    ที่อยู่ : 728 ถนนพระรามที่ 4 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
    พิกัด : วัดหัวลำโพง
    เฟซบุ๊ก : วัดหัวลำโพง พระอารามหลวง

 6. ศาลเจ้าเสียนหลอไต้เทียนกง จังหวัดสมุทรปราการ
          ชวนไปกราบสักการะเทพเจ้าทั้ง 5 (โหงวหวังเอี้ย) ที่ศาลเจ้าเสียนหลอไต้เทียนกง ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่มีต้นกำเนิดมาจากศาลเจ้ามูลนิธิหนานคุณเซินไต้เทียนกง เมืองไทหนาน ในไต้หวัน พร้อมชมสิงโตคู่แกะสลักขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งได้ผ่านการเข้าพิธีการปลุกเสก สวดพระคาถาโดยนักพรตผู้ปฏิบัติธรรมในลัทธิเต๋า จึงถือว่าเป็นสัตว์ที่ช่วยกำจัดสิ่งชั่วร้าย ภูตผีปีศาจ สิ่งอาถรรพ์ทั้งปวง และเพิ่มความสิริมงคลได้

          ด้านในศาลเจ้ามีเทพเจ้า 5 พระองค์ ให้ผู้คนที่มีจิตศรัทธาได้กราบไหว้ โดยเริ่มจาก โหงวหวังเอี้ย ที่อยู่ตรงกลางเป็นที่ประดิษฐานองค์เทพเจ้าทั้ง 5 พระองค์ จากนั้นจุดที่ 2 จะเป็นการไหว้เทพเจ้าและเจ้าพ่อเสือ ซึ่งสามารถขอพรได้ทุกเรื่อง สำหรับจุดที่ 3 เป็นการไหว้เทพเจ้าจงจินหู่ ขอพรเรื่องงาน ส่วนจุดที่ 4 จะเป็นการไหว้เทพเจ้าเฉินหวงเหย่ ขอพรเรื่องความมั่นคง และจุดที่5 เป็นการไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย ขอพรเรื่องดวง เพื่อให้คุ้มครองดวงชะตาชีวิต และส่งเสริมชะตาชีวิตให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีจุดสำหรับกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ เช่น เจ้าแม่กวนอิม ฮกเต็กเจี่ยสินแป๊ะกงเจ้าแม่บังเกิดเกล้า และเทพเจ้าว่านซ่านเหย่ หรือศาลเล็ก ด้วย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
    ที่อยู่ : 5 ซอยมูลนิธิธรรมกตัญญู ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
    พิกัด : ศาลเจ้าเสียนหลอไต้เทียนกง

7. วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม

         วัดเก่าแก่ชื่อดังสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ชื่อเดิมคือ วัดแม่เจ้าทิพย์ โดยภายในวัดจะมีทั้งความสวยงาม และความศักดิ์สิทธิ์ มีจุดที่เปิดให้ผู้มีจิตศรัทธามากราบไหว้สักการะ โดยเฉพาะการกราบไหว้บูชาท้าวเวสสุวรรณ เทพแห่งอสูรที่คอยปกปักรักษาโลกมนุษย์ และคุ้มครองให้พ้นจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง อีกทั้งยังช่วยเสริมในเรื่องของโชคลาภ เงินทองอีกด้วย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. (เปิดให้กราบไหว้ท้าวเวสสุวรรณถึง 00.00 น.)
    ที่อยู่ : 93 หมู่ 9 ถนนสมุทรสงคราม - บางแพ ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
    พิกัด : วัดจุฬามณี
    เว็บไซต์ : วัดจุฬามณี

8. วัดเทพพุทธาราม (เซียนฮุดยี่) จังหวัดชลบุรี
          วัดจีนพุทธศาสนาฝ่ายมหายานก่อตั้งมาเกือบประมาณ 100 ปีแล้ว ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองชลบุรีใกล้กับสี่แยกเฉลิมไทย ติดถนนสุขุมวิท ภายในวัดมีการก่อสร้างออกแบบตกแต่งตามแบบประเพณีคติความเชื่อจีน จึงมีการใช้สีแดง สีทอง สัตว์มงคล และผลไม้มงคลต่าง ๆ อาคารด้านในจะเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปตามแบบความเชื่อจีน และเมื่อเดินไปทางซ้ายมือ จะพบกับทางเชื่อมที่เป็นที่ตั้งขององค์เทพเจ้าต่าง ๆ ที่ชาวจีนและชาวไทยนิยมมากราบไหว้และทำพิธีสะเดาะเคราะห์กันตามความเชื่อด้วย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
    ที่อยู่ : 686 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี
    พิกัด : วัดเทพพุทธาราม (เซียนฮุดยี่)
    เฟซบุ๊ก : วัดเทพพุทธาราม จ.ชลบุรี

 9. มูลนิธิสว่างพรกุศล จังหวัดระยอง
           มูลนิธิสว่างพรกุศล (ระยอง) ตั้งอยู่ในซอยตรงข้ามโรงพยาบาลระยอง ด้านในมี ศาลเจ้าโจวซือกง อายุเก่าแก่อยู่ภายใน และมีตู้ให้วางกระดาษเงิน กระดาษทองสำหรับเขียนคุ้มครองดวง ให้มีสุขภาพที่ดีตลอดทั้งปี โดยเชื่อกันว่าหากเขียนชื่อลงบนกระดาษเงิน กระดาษทองแล้ว หลวงปู่โจวซือกงจะทำหน้าที่คุ้มครองดวงให้ แม้จะไม่ใช่การทำพิธีแก้ปีชงโดยตรง แต่ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ก็มีผู้มีจิตศรัทธาเดินทางมากราบไหว้ ทำบุญ และขอพรกันเป็นจำนวนมาก

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
    ที่อยู่ : 58 ถนนบุญศิริ ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง
    พิกัด : มูลนิธิสว่างพรกุศล
    เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก มูลนิธิสว่างพรกุศล

10. วัดละหารไร่ จังหวัดระยอง
           อีกหนึ่งวัดดังและมีชื่อเสียงของจังหวัดระยอง เดิมชื่อว่า วัดไร่วารี และเป็นสถานปฏิบัติธรรมที่เงียบสงบ ปัจจุบัน วัดแห่งนี้เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังเนื่องจากความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสในพระเกจิอาจารย์ หลวงปู่ทิม อิสริโก หรือ พระครูภาวนาภิรัติ ทำให้มีลูกศิษย์มากมาย และภายในวัดยังมี รูปหล่อหลวงปู่ทิม องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ให้ได้สักการะกันอีกด้วย สำหรับใครที่มีปีชง ก็สามารถมาทำพิธีแก้ชงที่วัดแห่งนี้ได้ด้วยการทำบุญกระเบื้องหลังคาวิหาร กระเบื้องปูพื้น ถวายสังฆทาน ผ้าอาบน้ำฝน ปิดทองพระพุทธรูป ถวายหลอดไฟ เพื่อให้เกิดแสงสว่างในชีวิต เป็นการสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัว และขจัดปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดี พร้อมกราบไหว้ขอพรองค์หลวงปู่ทิม เพื่อแก้เคล็ดจากร้ายให้กลับกลายเป็นดี

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
    ที่อยู่ : 1/1 บ้านละหารไร่ หมู่ 8 ตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง
    พิกัด : วัดละหารไร่
    เฟซบุ๊ก : วัดละหารไร่ หลวงปู่ทิม อิสริโก จ.ระยอง

11. วัดอุภัยภาติการาม (วัดซำปอกง) จังหวัดฉะเชิงเทรา
          วัดอุภัยภาติการาม หรือ วัดซำปอกง เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงของฉะเชิงเทรา เดิมเป็นวัดจีนแต่ปัจจุบันแปรสภาพเป็นวัดญวนในลัทธิมหายาน ภายในวัดมีวิหารลักษณะเหมือนศาลเจ้า วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโต หรือพระไตรรัตนนายก ที่ชาวจีนเรียกว่า เจ้าพ่อซำปอกง ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก ซึ่งองค์หลวงพ่อโต มีเพียง 1 ใน 3 องค์ในประเทศไทยเท่านั้น โดยมีประดิษฐานอยู่ที่วัดกัลยาณมิตร (ฝั่งธนบุรี) จังหวัดกรุงเทพฯ วัดพนัญเชิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และวัดอุภัยภาติการาม จังหวัดฉะเชิงเทราแห่งนี้ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน มักจะมีชาวไทยเชื้อสายจีนนำเทียนเล่มใหญ่มากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อโต โดยเชื่อว่าจะช่วยให้มีโชคเรื่องการค้าขาย และช่วยให้หายจากอาการเจ็บป่วย ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง นอกจากมาขอพรแล้วภายในวัดยังมีทำพิธีแก้ชงอีกด้วย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.
    ที่อยู่ : 475/7 ถนนศุภกิจ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
    พิกัด : วัดอุภัยภาติการาม (วัดซำปอกง)
    เฟซบุ๊ก : วัดอุภัยภาติการาม - ซำปอกง จ.ฉะเชิงเทรา

12. วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ จังหวัดกาญจนบุรี
           วัดจีนที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดกาญจนบุรี โดดเด่นด้วยรูปปั้นไม้แกะสลักพระโพธิสัตว์กวนอิมพันกรองค์ใหญ่ สูง 12 เมตร และมีเจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักจากไม้หอมปางต่าง ๆ อีกกว่า 100 ปาง เสาไม้ขนาดใหญ่สลักลวดลายมังกรพันรอบเสาสวยงาม และมีงานไม้แกะสลักอีกมากมายให้ได้ชม นอกจากนี้ยังมีเทพไท้ส่วยเอี้ย และเทวรูปของเทพเจ้าอื่น ๆ อีกมากมายหลายองค์ รวมถึงบริการต่อดวงชะตา สะเดาะเคราะห์ และพิธีแก้ปีชงให้กับประชาชนทั่วไปอีกด้วย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-18.00 น.
    ที่อยู่ : 99/10 หมู่ 7 ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
    พิกัด : วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ
    เฟซบุ๊ก : วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ

13. วัดโพธิ์เย็น จังหวัดกาญจนบุรี
           วัดโพธิ์เย็นแห่งนี้มีประวัติที่น่าสนใจคือ เป็นวัดจีนแห่งแรกในไทย ที่มีพระอุโบสถฝ่ายมหายานในพระพุทธศาสนา ซึ่งมีพัทธสีมาถูกต้องครบถ้วน สามารถอุปสมบทพระภิกษุจีนในไทยได้โดยที่ไม่ต้องออกเดินทางไปบวชยังประเทศจีน ภายในเป็นที่ประดิษฐานของ พระศรีศากยมุนี​พุทธเจ้า​ ซึ่งเป็นพระประธาน​ในอุโบสถ รวมถึงสามารถกราบขอพร​เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา ฝากดวงแก้ปีชง และร่วมทำบุญ​ถวายโคมประทีปอีกด้วย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
    ที่อยู่ : 33 ตลาดลูกแก ตำบลดอนขมิ้น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี
    พิกัด : วัดโพธิ์เย็น
    เฟซบุ๊ก : วัดโพธิ์เย็น

14. วัดถ้ำเขาน้อย จังหวัดกาญจนบุรี
           วัดที่ตั้งอยู่บนยอดภูเขา ติดกับวัดถ้ำเสือ โดดเด่นด้วยเจดีย์สีทองอร่ามสวยงาม มองเห็นได้แต่ไกล ภายในวัดเป็นอาคารแบบจีน มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวจีน เช่น พระโพธิสัตว์กวนอิม พระสังกัจจายน์ และ 18 อรหันต์ ด้านข้างเป็น พระเจดีย์หมื่นพุทธะ อาคารทรงเก๋งจีน 7 ชั้น ด้านในพระเจดีย์จะมีพระพุทธเจ้าองค์เล็ก ๆ เรียงรายอยู่บนผนัง โดยแต่ละชั้นจะมีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ รวมถึงพระพุทธรูปองค์สำคัญประดิษฐานอยู่ และชั้นสุดท้าย จะเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย นอกจากนี้ด้านบนยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เมื่อมองลงมาด้านล่างจะเห็นแม่น้ำแม่กลอง อีกทั้งท้องนาที่ทำกินของชาวบ้าน ต้นไม้ใหญ่น้อยที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.
    ที่อยู่ : ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
    พิกัด : วัดถ้ำเขาน้อย
    เฟซบุ๊ก : วัดถ้ำเขาน้อย กาญจนบุรี

15. ศาลเจ้ากวนอู (บู้เบี้ย) จังหวัดเชียงใหม่
           ศาลเจ้ากวนอู (บู้เบี้ย) ตั้งอยู่บริเวณตรอกเล่าโจ๊ว กาดหลวง เป็นวัดจีนที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่ง เล่าลือกันว่าก่อตั้งมาจากชาวจีนอั้งยี่ ที่มีความสามารถในศิลปะการต่อสู้หรือวิทยายุทธ์ ภายในศาลมีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจในรูปแบบศิลปกรรมต่าง ๆ ทั้งยังเป็นสถานที่ที่ชาวจีนกราบไหว้สักการะ และมีเทพเจ้ากวนอู ซึ่งเปรียบเสมือนเทพเจ้าที่ชาวจีนให้ความเคารพกราบไหว้บูชาในฐานะ เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ และมีความเชื่อกันว่าคนที่มาขอพรกับเทพเจ้ากวนอูนั้นมักจะสมหวัง ทำให้คนทั่วไปนิยมมากราบไหว้ขอพรให้ประสบความสำเร็จทั้งหน้าที่การงาน การเรียน สุขภาพ เงินทอง รวมถึงขอให้เคราะห์ร้ายต่าง ๆ มลายหายไปด้วย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.
    ที่อยู่ : 90 ถนนวิชยานนท์ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
    พิกัด : ศาลเจ้ากวนอู (บู้เบี้ย)

16. ตำหนักพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ โชคชัย 4 สาขาเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
           ตำหนักพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ โชคชัย 4 เป็นพุทธสถานสไตล์จีน มีพื้นที่ประมาณ 7 ไร่ และเป็นสาขาหนึ่งของตำหนักพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ โชคชัย 4 เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ประกอบไปด้วย เก๋งเสด็จพ่อพระศิวะเทพแห่งฟ้าดิน เก๋งพระสังกัจจายน์ เก๋งเหล่าพระโพธิสัตว์ และศาลาปฏิบัติธรรมซึ่งมีพระพุทธรูปศิลปะพม่าเป็นองค์ประธาน รายรอบด้วยระฆังกว่าร้อยลูก มีประติมากรรมรูปมังกรและรูปเสือขนาดใหญ่ ซึ่งสาธุชนผู้มาเยือนพุทธสถานแห่งนี้สามารถเดินเข้าทางปากมังกร (ซึ่งเปรียบเสมือนได้กราบขอพรจากองค์เจ้าปู่มังกรมหาสมุทร) เพื่อขึ้นไปสักการะและเดินเวียนรอบองค์พระมหาโพธิสัตว์กวนอิมและเจ้าชายอั้งไฮ้ยี้ ซึ่งตลอดทางเดินภายในยังประกอบไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังภาพพุทธประวัติ และเดินออกทางปากเสือ (ซึ่งเปรียบเสมือนได้กราบขอพรจากองค์เจ้าพ่อเสือ) รวมถึงร่วมสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้อีกด้วย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.30 น.
    ที่อยู่ : 120/3 ถนนมหิดล ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
    พิกัด : ตำหนักพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ โชคชัย 4 สาขาเชียงใหม่

17. มูลนิธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศ จังหวัดขอนแก่น
           มูลนิธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศ หรือที่รู้จักกันในชื่อ มูลนิธิโป้ยเซียน เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวจีน ภายในมี องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม (เจ้าแม่กวนอิม) ให้กราบไหว้ขอพร และมีจุดทำบุญบริจาคโลงศพ ทำบุญบริจาคผ้าห่อศพ หรือทำบุญช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ เพื่อเป็นการแก้ปีชง เสริมมงคลให้ชีวิตด้วย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
    ที่อยู่ : ถนนชีท่าขอน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
    พิกัด : มูลนิธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศ
    เฟซบุ๊ก : มูลนิธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศ

18. ศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า จังหวัดขอนแก่น
           ศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า ศาลเจ้าเก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองขอนแก่น เป็นที่ประดิษฐานขององค์ปึงเถ่ากง-ม่า องค์เจ้าแม่ทับทิม องค์เทพเจ้าไฉ่ชิงเอี๊ยหรือเทพแห่งโชคลาภ องค์เทพเจ้าฟ้าดิน และองค์ตี่จู่เอี๊ย จนถือว่าเป็นศาลหลักเมืองอีกแห่งหนึ่งที่มีคนไทยเชื้อสายจีนและชาวขอนแก่นให้ความเคารพนับถือ นิยมมาขอพรให้สำเร็จตามความปรารถนา ช่วยคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข ร่ำรวยเงินทอง หยิบจับอะไรก็ไม่ติดขัด ทั้งด้านการงาน การค้า สุขภาพ และเรื่องอื่น ๆ นอกจากนี้ ในทุก ๆ ปีจะมีการจัดงานสมโภชศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า ซึ่งจะมีการประดับประดาโคมไฟที่สวยงาม มีการแห่มังกรและเชิดสิงโตอย่างยิ่งใหญ่ด้วย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
    ที่อยู่ : 51/24 หมู่ 1 ถนนรอบบึง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
    พิกัด : ศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า
    เฟซบุ๊ก : ศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า ขอนแก่น

19. มูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถาน จังหวัดอุบลราชธานี
           มูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถาน เป็นสถานที่สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่อยากมากราบไหว้ขอพรกับเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวจีน และทำบุญแก้ปีชง เสริมความเป็นสิริมงคลให้ชีวิตและครอบครัว ช่วยบรรเทาให้ชีวิตพ้นโศกพ้นเคราะห์แล้ว ยังทำให้ทุกด้านในชีวิตมีความสุขสดใส และราบรื่นไปตลอดทั้งปี

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
    ที่อยู่ : 12 ถนนศรีมงคล ตำบลวารินชำราบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
    พิกัด : มูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถาน

20. มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
           มูลนิธิกุศลศรัทธา หรือ ศาลเจ้าหลวงปู่ไต้ฮงกง มีหลวงปู่ไต้ฮงกงเป็นประธาน เป็นศาลเจ้าที่มีคนมาสักการะมากมาย สามารถทำบุญเติมน้ำมันตะเกียง บริจาคโลงศพแก่ผู้ไร้ญาติ รวมถึงการร่วมสนับสนุนแก่อาสาสมัครกู้ภัยของมูลนิธิ นอกเหนือไปกว่านั้น ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นที่นิยมของคนไทยเชื้อสายจีนที่ต้องการทำพิธีแก้ชงต่อหน้าเทพเจ้าไท้ส่วยเอี้ย หรือเทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตาด้วย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
    ที่อยู่ : 63/1 ถนนภักดีอนุสรณ์ ตำบลตลาด อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
    พิกัด : มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี
    เฟซบุ๊ก : มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี

และนี่คือ วัดแก้ปีชง 2567 ที่เราได้รวบรวมมาให้ทุกคนได้เดินทางไปกราบไหว้ขอพร แก้ชง ปัดเป่าเคราะห์ร้าย พลิกเรื่องร้ายให้กลับพบเจอแต่เรื่องดี ๆ ร่ำรวยเฮง ๆ กันไปเลย ส่วนใครที่ไม่ได้เกิดในปีชง ก็สามารถเดินทางมาทำบุญ เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตได้เช่นกัน

10
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


11
รถยนต์ไฟฟ้า 2024: ปอร์เช่ Porsche Macan 4S ปี 2024
6,390,000 บาท 

ปอร์เช่ Porsche Macan 4S ปี 2024
Porsche Macan 4S ยนตรกรรมสปอร์ต SUV พลังงานไฟฟ้ารุ่นที่ 2 มีกำลังสูงถึง 380 กิโลวัตต์ หรือกว่า 516 แรงม้า สามารถเร่งความเร็วจากจุดหยุดนิ่งไปถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลา 4.1 วินาที และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่อยู่ใต้ท้องรถ โดยมีความจุรวม 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถรองรับการชาร์จไฟกระแสตรง (DC) สูงถึง 270 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ตั้งแต่ 10 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลาประมาณ 21 นาที


สนใจรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อที่โชว์รูม และศูนย์บริการของ ปอร์เช่ประเทศไทย โดย เอเอเอสกรุ๊ป ได้ทั้ง 4 สาขา Porsche Centre Bangkok โทร 02-522-6655, Porsche Centre Pattanakarn โทร 02-369-1111, Porsche Studio Siam Paragon ชั้น 2 โทร 02-610-9911 และ Porsche Studio Bangkok ICONSIAM ชั้น 1 โทร 02-288-0911

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์         Porsche
   รุ่น              ปอร์เช่ Porsche Macan 4S ปี 2024
   ประเภทรถ     รถอเนกประสงค์ SUV, Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว     2024
   ราคา          6,390,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
อุปกรณ์ชุดแต่ง (เสกิร์ตข้าง,ดิฟฟิวเซอร์หลัง)
สปอยเลอร์หลัง (ปรับได้)
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
กระจกกรองแสง
ไฟตัดหมอก
ระบบไล่ฝ้ากระจกหน้าต่าง
ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (พร้อมระบบควบคุม Porsche Active Suspension Management (PASM))
ไฟหน้าส่องสว่างอัตโนมัติ
ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
ขนาดยางหน้า-หลัง (หน้า: 235/55 ZR 20 หลัง: 285/45 ZR 20)
ราวหลังคา (ดำ)
ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์
ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบพิเศษ (ทำงานอัตโนมัติ)
ไฟหน้า LED (LED Matrix)
ไฟ Daytime Running Lights (four-point daytime running lights)
ล้ออัลลอย (20 นิ้ว)

   ภายใน
เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้
ระบบจดจำปรับที่นั่งคนขับ
ระบบนำทาง (Navigator)
ตกแต่งภายใน (หนังแท้สลับโครมเมี่ยม)
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
พวงมาลัยหุ้มหนัง
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้
ภายในโทนสีดำ
ภายในโทนสีเทา
กระจกมองหลังตัดแสง
หัวเกียร์หุ้มหนัง

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า                มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มีความเร็วสูงสุดที่ 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)  แรงม้า
   ระบบเกียร์                    เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์                  Single-Speed transmission
   ระบบเบรค ABS              มี
   ชนิดแบตเตอรี่               ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่                100 kWh
   ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง  606 กม. (WLTP)
   น้ำหนักตัวรถ                    2,345 กก.
   ประเภทยางรถยนต์              -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                ล้ออัลลอย (20 นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน                ขับเคลื่อนสี่ล้อ Full Time

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ระบบรักษาเสถียรภาพของรถ Porsche Stability Management (PSM))
ตัวถังนิรภัย
ดิสก์เบรก 4 ล้อ (พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดง)
เซ็นทรัลล็อค
สัญญาณกันขโมย
กุญแจรีโมท
กุญแจนิรภัย
ล็อคประตูอัตโนมัติ
ไฟเบรกดวงที่ 3
สัญญาณเตือนถอยหลัง
ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ
ระบบแจ้งอุปกรณ์ทำงานขัดข้อง
ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์
ระบบป้องกันการโจรกรรม
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
หลอดไฟพิเศษระบบ Daytime Running Lights(DRL)
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPM),ระบบช่วยจอด (หน้าและหลัง) พร้อมกล้องถอยหลัง, ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ, ระบบช่วยทางแยก)
เข็มขัดนิรภัย
พวงมาลัยยุบตัวได้
กระจกนิรภัย
คานเหล็กเสริมนิรภัย
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก

12
ขายรถผู้บริหาร Honda WR-V 1.5 RS ปี2023 ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

ฮอนด้า Honda-WR-V RS-ปี 2023
HONDA WR-V RS ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบรับกระแสความนิยมและการเติบโตของความต้องการในกลุ่มรถเอสยูวีในปัจจุบัน พร้อมเติมเต็มความต้องการที่หลากหลายและสร้างคุณค่าใหม่ให้ตลาดเอสยูวีอีกครั้ง โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตสุดเท่ มีสไตล์ แข็งแกร่ง และให้ความรู้สึกพรีเมียม ทันสมัย ตามสไตล์ชีวิตยุคใหม่ ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมเบาะนั่งด้านหลังแถว 2 ปรับพับได้ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ แรงได้สุด สนุกได้ทุกเส้นทางด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ผสานเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ให้อัตราประหยัดน้ำมันที่ดี 16.7 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20 ขับขี่ปลอดภัยมั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย และเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยอื่น ๆ

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 1 พ.ย. - 31 ธ.ค. 2567
เงื่อนไข โปรโมชั่น ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.29% ตลอดอายุสัญญา
วารันตี 2ปี

ราคาพิเศษ 634,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์           Honda     
   รุ่น                ฮอนด้า Honda-WR-V RS-ปี 2023
   ประเภทรถ       รถอเนกประสงค์ SUV
   ปีที่เปิดตัว       2023


13
Mitsubishi Triton 2024: All New Mitsubishi Triton สร้างประวัติศาสตร์เป็นรถกระบะ ดับเบิ้ล แค็บ รุ่นแรก คว้ามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด 5 ดาวจาก ANCAP 2024

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) ประกาศความสำเร็จ จากการที่  ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน1 รถกระบะขนาด 1 ตัน ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด 5 ดาว2 จาก ANCAP3 (Australasian New Car Assessment Program) ปี 2567 ซึ่งเป็นการทดสอบเพื่อประเมินสมรรถนะด้านความปลอดภัยของยานยนต์รุ่นใหม่ ที่จำหน่ายในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ โดย ออล-นิว ไทรทัน เป็นรถกระบะดับเบิ้ล แค็บ 4 ประตูรุ่นแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในการทดสอบประจำปี 2566 – 2568 และนับเป็นความสำเร็จต่อเนื่องจากการที่ ออล-นิว ไทรทัน ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด 5 ดาว จากการทดสอบการชนของรถยนต์ใหม่ โดย ASEAN NCAP4  ในปี 2566 ซึ่งเป็นการทดสอบเพื่อประเมินสมรรถนะด้านความปลอดภัยของยานยนต์รุ่นใหม่ที่ออกจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มุ่งมั่นสานต่อปรัชญาของบริษัทฯ ในการนำเสนอมาตรฐานด้านความปลอดภัย เพื่อนำไปสู่สังคมการเดินทางที่มีสถิติอุบัติเหตุเป็นศูนย์ ผ่านความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย และการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านการจราจร

ออล-นิว ไทรทัน มอบความปลอดภัยเหนือระดับด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE5 (Reinforced Impact Safety Evolution) ที่มีความแข็งแกร่งสูง สามารถรองรับแรงปะทะและลดการยุบตัวของห้องโดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนสภาพน้อยที่สุด พร้อมด้วยเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัย SRS 8 ตำแหน่ง6 (สำหรับรุ่นดับเบิ้ล แค็บ ที่จำหน่ายในออสเตรเลีย) ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้โดยสารด้วยระดับความปลอดภัยขั้นสูง เสริมด้วยระบบความปลอดภัยเพื่อยกระดับสมรรถนะความปลอดภัยในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ อาทิ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC - Active Stability Control) ที่ช่วยควบคุมการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง ในสภาวะที่รถเสียสมดุล และ ระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM - Forward Collision Mitigation) ที่มีการตรวจจับคนเดินถนนและผู้ขับขี่จักรยานยนต์ ซึ่งถูกติดตั้งให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย


ออล-นิว ไทรทัน เป็นรถกระบะขนาด 1 ตัน ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีต้นกำเนิดจากรถรุ่น ฟอร์เต้ (Forte) ที่เปิดตัวออกสู่ตลาดในปี 2521 ก่อนจะได้รับการผลิตมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 45 ปี มากกว่า 5 เจนเนอเรชั่น ด้วยจำนวนการผลิตกว่า 5.7 ล้านคัน ที่จัดจำหน่ายในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก และกลายเป็นรถรุ่นสำคัญในเชิงกลยุทธ์ระดับโลกของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส

ด้วยการพัฒนาภายใต้แนวคิด “พลังแกร่งคู่ใจสายลุย” (Power for Adventure) ออล-นิว ไทรทัน เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นที่ได้รับการยกระดับและพัฒนาขึ้นใหม่ นับตั้งแต่ดีไซน์ภายในและภายนอก ไปจนถึงแชสซีส์ใหม่ เฟรมหรือโครงรถแบบขั้นบันไดใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ โดยได้รับการเปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตในเดือนกรกฎาคม 2566 ก่อนที่จะเปิดตัวที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตามด้วยประเทศญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในเดือนมีนาคม และมีกำหนดที่จะเปิดตัวในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

1. ไทรทัน ได้รับการจัดจำหน่ายในชื่อ L200 ในบางประเทศ
2. ครอบคลุมรุ่นดับเบิ้ล แค็บ ทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ
3. ANCAP คือ Australasian New Car Assessment Program
4. ASEAN NCAP คือ New Car Assessment Program for Southeast Asian Countries
5. โครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE คือ Reinforced Impact Safety Evolution
6. อุปกรณ์ขึ้นอยู่กับประเภทตัวถังและรุ่นย่อย

14
เทคนิค ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน ได้หลายโลในหนึ่งเดือน และได้ผลดี

ใครๆ ก็อยากจะมีรูปร่างที่ดีกันทั้งนั้น สำหรับคนที่มีน้ำหนักเยอะ ก็จะขวนขวายหาวิธีการ ลดความอ้วน ลดน้ำหนัก  ที่เห็นผลที่สุดแบบไหนดี วันนี้พวกเรานำแนวทางลดหุ่น ไม่โยโย่ สุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง  มาฝากกัน มั่นใจว่าม่าม้ารวมทั้งผู้หญิงหลายคนในที่นี้ บางครั้งอาจจะผ่านช่วงการลดความอ้วนมาบ้างไม่มากมายก็น้อย

แม้กระนั้นไม่ว่าจะสูตรไหนก็กระทั่งแล้วกระทั่งเล่า ก็ยังไม่อาจจะลดหุ่นได้เสร็จสักครั้ง โดยยิ่งไปกว่านั้นแม่มีท้องบางคนที่พึ่งจะผ่านการคลอดมา อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีความนึกคิดเกี่ยวกับหัวข้อการกลับมาดูแลรูปร่างตนเองอีกที แล้วพวกเราควรจะ ลดหุ่นแบบไหนดี


ลดความอ้วน แบบไหนถึงจะเห็นผล

สำหรับ เทคนิคการ ลดความอ้วน จำเป็นต้องการลดอย่างเร็ว มีนักวิชาการหลายคน ได้ให้คำแนะนำว่า ควรจะ ลดแป้ง และน้ำตาล ทานโปรตีนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ออกกำลังกายวันละประมาณชั่วโมง ดื่มน้ำเยอะๆ ในยามหิว และควรจะทำ IF ก็คือ มีช่วงเวลาที่เราจะไม่ทานอะไรเลย ทานแต่น้ำ ประมาณ 8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ไม่ทานอาหารมื้อจุกจิก เพียงแค่นี้ ก็ลดได้เร็วแล้ว

หากแม้คุณลดน้ำหนัก ด้วยวิธีข้างต้น จนเป็นที่พอใจแล้ว คุณควรจะต้องควบคุมพฤติกรรมการกิน และก็การบริหารร่างกายในระยะยาวในทุกๆวัน ไม่ปล่อยปะละเลยให้กลับมาอ้วนใหม่ ให้เอาใจใส่การกินอาหารที่ดีต่อร่างกาย งดแป้งและน้ำตาล หรือทานให้น้อย รวมทั้งการบริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

เพื่อช่วยทำให้น้ำหนักต่ำลงในระยะยาวและยั่งยืน การลดความอ้วนที่ดี คือการมีวินัยในการกิน มีวินัยในการออกกำลังกาย ที่สำคัญ ไม่ใช่แค่เพียงน้ำหนักลดอย่างเดียว สุขภาพต้องแข็งแรงด้วยนะ การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการดูแลสุขภาพ เรียกได้ว่า หุ่นดี สุขภาพดี นั่นเอง


ควรจะลดหุ่นทีละเล็กทีละน้อย อย่าหักโหมเกินไป

แนวทางลดความอ้วนที่เห็นผลที่สุด โปรดจดจำไว้ว่าผู้ชำนาญผู้คนจำนวนมากเน้นว่า ควรจะลดหุ่นทีละเล็กทีละน้อยในช่วงเวลาตอนหนึ่งนั้นดีเยี่ยมที่สุด โน่นซึ่งก็คือ ถ้าหากลดจำนวนไม่ใช่น้อยในช่วงสั้นอย่างที่กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ ย่อมไม่ปลอดภัยต่อร่างกายในระยะยาวนั่นเอง และก็แม้คุณลดความอ้วนเร็วเกินความจำเป็น หรือใช้แนวทางไม่กินอาหาร คุณจะสูญเสียกล้ามกระดูกและก็น้ำ แทนที่จะเป็นไขมัน

โดยเหตุนี้พวกเรามาเอ่ยถึงการกำหนดจุดมุ่งหมายที่จะลดหุ่นต่ออาทิตย์และก็เลี่ยงอาหารสำเร็จรูป หรือรวมถึงยาลดความอ้วนซึ่งบางทีอาจมีผลที่รุนแรง โดยโฆษณาชวนเชื่อที่ฟังดูดีเกินกว่าที่จะเป็นจริงได้นั้นเป็นเรื่องจำเป็นที่จำต้องใคร่ครวญ ทางที่ดีควรจะคิดแผนแนวทางลดความอ้วน

เพื่อผลในระยะยาว ข้อเสนอแนะโดยรวมก่อนที่จะพวกเราจะเข้าไปยังขั้นตอนรวมทั้งกรรมวิธีการสำหรับเพื่อการลดความอ้วนแต่ละรุปแบบ ก็จำเป็นต้องย้ำเลยว่าการกำหนดเป้าหมายสำหรับเพื่อการลดนับว่าเป็นส่วนสำคัญ ที่ทำให้ท่านสามารถลดความอ้วนได้เสร็จ รวมทั้งทรหดอดทนได้มากเพียงพอกระทั่งคุณจะลดน้ำหนักได้เสร็จนั่นเองจ้ะ นอกจากข้อเสนอแนะอื่นๆ

15
Doctor At Home: รังแค (Dandruff/Seborrhea/Pityriasis capitis)

รังแค หมายถึง เกล็ดสีขาวบนหนังศีรษะ ซึ่งจะหลุดร่วงเมื่อแปรงหรือหวีผม เป็นสิ่งที่พบได้ในคนกว่าร้อยละ 50 โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็นมากในช่วงอายุประมาณ 20 ปี

การมีขี้รังแคมากไม่ถือว่าเป็นโรค และไม่ทำให้เกิดความผิดปกติของเส้นผมหรือการอักเสบของหนังศีรษะแต่อย่างใด

สาเหตุ

เกล็ดรังแคเกิดจากหนังศีรษะชั้นบนสุด (ชั้นขี้ไคล) ที่ตายแล้วและหลุดออกมาตามธรรมชาติ ผมบนศีรษะอาจจะรบกวนกระบวนการหลุดลอกของชั้นขี้ไคล ทำให้มีเกล็ดหรือขุยเกิดขึ้น เนื่องจากภาวะนี้พบมากในวัยรุ่น จึงเชื่อว่าอาจเกิดจากการกระตุ้นของฮอร์โมนแอนโดรเจนและการทำงานของต่อมไขมัน และอาจเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่มีรังแคมากจะมีปริมาณของเชื้อรามาลัสซีเซียเฟอร์เฟอร์ (Malassezia furfur) มากกว่าคนปกติ ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจเป็นสาเหตุของการเกิดรังแคได้

อาการ

เป็นเกล็ดหรือขุยสีขาวหรือเทาเงิน ขนาดเล็ก ๆ อาจเป็นขุยละเอียด หรือเป็นแผ่น อาจเป็นเพียงแห่งเดียวหรือหลายแห่ง หรืออาจเป็นทั้งหนังศีรษะก็ได้ เกล็ดรังแคจะติดค่อนข้างแน่นบนหนังศีรษะ และจะหลุดร่วงก็ต่อเมื่อแปรงหรือหวีผม หรือเมื่อถูกลมพัด

ความรุนแรงของรังแคจะแปรผันไม่แน่นอนในแต่ละช่วง โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ บางรายอาจมีอาการคันร่วมด้วย

ภาวะแทรกซ้อน

ไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง นอกจากทำให้รำคาญและเสียบุคลิกภาพ


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะแนะนำให้สระผมด้วยแชมพูที่มีตัวยารักษารังแค เช่น ซีลีเนียมซัลไฟด์ (selenium sulfide), ซิงค์ไพริไทโอน (zinc pyrithione), น้ำมันดิน (coal tar เช่น ทาร์แชมพู) ใช้สระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ควรสระทิ้งไว้นาน 5-15 นาที แล้วค่อยล้างออก นอกจากนี้อาจใช้แชมพูคีโตโคนาโซล ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา สระผมก็ได้ผลเช่นกัน

ถ้าได้ผล ควรใช้แชมพูดังกล่าวไปเรื่อย ๆ หากหยุดใช้อาจกลับมีขี้รังแคได้อีก

ในรายที่ใช้แชมพูดังกล่าว 2 สัปดาห์แล้วยังไม่ได้ผล หรือหนังศีรษะมีลักษณะอักเสบ หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่สงสัยว่าอาจเป็นโรคผิวหนังชนิดอื่น ๆ จะทำการตรวจหาสาเหตุอื่น ๆ เพิ่มเติม


การดูแลตนเอง

หากมีรังแคมาก ให้สระผมด้วยแชมพูที่มีตัวยารักษารังแค เช่น ซีลีเนียมซัลไฟด์ (selenium sulfide), ซิงค์ไพริไทโอน (zinc pyrithione), น้ำมันดิน (coal tar เช่น ทาร์แชมพู) ใช้สระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ควรสระทิ้งไว้นาน 5-15 นาที แล้วค่อยล้างออก

ควรปรึกษาแพทย์ ถ้าใช้แชมพูรักษารังแคแล้วไม่ได้ผล หรือสงสัยเป็นโรคผิวหนังอักเสบชนิดเกล็ดรังแค (เซ็บเดิร์ม) หรือโรคผิวหนังอื่น ๆ


การป้องกัน

หมั่นสระผมด้วยแชมพูที่มีตัวยารักษารังแคเป็นประจำ


ข้อแนะนำ

ผู้ที่มีอาการรังแคที่ศีรษะที่เป็นเรื้อรัง หรือเป็นมากกว่าปกติ อาจเป็นโรคผิวหนังอักเสบชนิดเกล็ดรังแค หรืออาการแรกเริ่มของโรคโซริอาซิสก็ได้ หากสงสัยควรปรึกษาแพทย์ เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและให้การรักษาที่ถูกต้องต่อไป

หน้า: [1] 2 3 ... 37
ลงประกาศฟรี โฆษณาฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถ สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทสินค้าฟรี เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google